ถ้าพูดถึงสถานที่ที่คนทั้งครอบครัวสามารถไปใช้เวลาร่วมกันได้ ไม่ไกลจากตัวเมือง เดินทางสะดวก สนุก แปลกใหม่ และเหมาะกับทุกเพศวัย จะคิดถึงที่ไหน? ถ้ายังนึกไม่ออก เราขออาสาพาครอบครัวและน้องๆ หนูๆ ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ กับ ‘STANLEY MINIVENTURE’ เมืองจำลองขนาด 1:87 แห่งแรกในเมืองไทยและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า GATEWAY EKAMAI แล้วคุณจะรู้ว่า ที่นี่เป็นมากกว่าเมืองจำลอง

STANLEY MINIVENTURE ก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวไทยผู้หลงใหลในงานประดิษฐ์อย่าง เอกภาสน์ เตพละกุล ร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับช่างฝีมือชาวไทย 100% และใช้ชื่อลูกชาย ‘Stanley’ มาตั้งเป็นชื่อเมืองขนาดจิ๋วให้พวกเราได้ร่วมหลงใหลไปด้วยกัน

ความขี้เล่นของเมืองจำลองนี้เริ่มตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว เพราะมีการจำลองรูปแบบของตั๋วรถไฟจริงๆ จากนั้นก็ให้น้องๆ หนูๆ เดินตามสติกเกอร์รางรถไฟไปสู่ทางเข้าที่เป็นตู้รถไฟ เพื่อเข้าสู่เมืองและทำภารกิจตามล่าหาสมบัติพร้อมกับสแตนลีย์ มาสคอตเด็กหนุ่มประจำเมือง

เมื่อเข้ามาถึงด้านใน จะมีการแบ่งโซนจัดแสดงและกิจกรรมไว้ถึง 11 โซน ทุกโซนจะมีรถไฟวิ่งผ่านเป็นเอกลักษณ์ และทุกอย่างในเมืองจะถูกดัดแปลงมาจากของจริงในสัดส่วนมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้สร้างเมืองจำลอง กำลังน่ารัก น่าส่อง น่าศึกษาได้ไม่ยาก ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปที่จะมองเห็นกิจกรรมของตัวละคร บ้านเรือน ถนนหนทาง และสถาปัตยกรรม เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ชี้ชวนกันดูเมืองนั้นมองเมืองนี้ โดยแบ่งเป็นเมืองทรัพยากร, เมืองเกษตรกรรมและปศุสัตว์, เมืองแห่งเรื่องราวและประวัติศาสตร์, เมืองคมนาคมและความบันเทิง, เมืองทะเลทราย, เมืองชายหาดและท้องทะเล, ถ้ำกาลเวลา, เมืองหิมะ, ย่านธุรกิจหมื่นล้าน, สนามบินไร้ขอบฟ้า หรือแม้แต่เมืองไท้ยไทยของเราก็มี แต่ละโซนก็จะมีสิ่งของ เรื่องราว บ้านเมืองที่สอดคล้องกับชื่อของเมืองให้เรียนรู้และส่องดูไม่รู้จบ

แต่ต้องกระซิบหน่อยว่า บ่อยครั้งที่เรื่องราวของแต่ละเมืองจะเปลี่ยนไป เพราะช่างฝีมือสุดกวนของที่นี่เกิดนึกสนุกกับตัวละครขึ้นมา เช่น สัปดาห์นี้เราอาจจะได้เห็นตัวละครขอแต่งงานกันอยู่หน้าบ้าน อีกสองสัปดาห์ต่อมาพวกเขาอาจจะยืนแต่งงานกันอยู่ที่หน้าโบสถ์แล้วก็เป็นได้ และหากเห็นตัวละครขยับได้ คุณพ่อคุณแม่อย่าตกใจไป เพราะเป็นลูกเล่นที่ทางทีมงานได้ใส่แผงวงจรไว้ให้ตัวละครบางตัวเปลี่ยนอิริยาบถตามเรื่องราวของตัวเองได้

ไม่เพียงเรื่องราวในโซนต่างๆ ที่ดึงดูดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้อยู่หมัด ไฟทั้งหมดในห้องจัดแสดงยังถูกควบคุมให้เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาทุกๆ 8 นาที ตั้งแต่ฟ้าสางจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหรือค่ำคืนมืดมิด ที่เราจะได้เห็นแสงไฟถนนและไฟจากหน้าต่างบ้านเรือนในเมืองจำลองราวกับผู้คนในนั้นมีชีวิตจริงๆ และอีกกิมมิกที่น่าสนใจคือแต่ละเมืองจะมีปุ่มกดให้น้องๆ ได้ร่วมสนุก เช่น เมืองคมนาคม ก็สามารถกดให้หัวรถไฟเลื่อนไปหยุดตรงรางที่ต้องการได้

เมื่อเดินจนถึงทางออกก็มีร้านขายของที่ระลึกและโซนระบายสี หรือหากสนใจอยากลองสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ดูบ้าง ก็มาที่ Painting Room เพราะเขามีทั้งต้นไม้จำลอง คนจำลองให้ลองวาดลองลงสี โดยทีมงานจากเมือง Stanley จะช่วยแนะนำให้ ทำออกมาสวยถูกใจแน่นอน ไม่ต้องกลัว

และหากคิดว่าเมืองขนาดจิ๋วๆ แค่นี้ จะมีอะไรเด็ดไปกว่านี้ได้อีก ขอบอกว่ายังไม่หมดค่ะ เพราะความยาวรวมของรางรถไฟทั้งเมือง Stanley นั้นยาวที่สุดในโลกของเมืองจำลองทั่วโลกอีกด้วย