คุณแม่ทุกคนย่อมรู้ว่า การเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นเป็นคนมีคุณภาพนั้น เป็นเรื่องยากแสนยาก เพราะลำพังแค่หวังจะให้ลูกเชื่อฟัง หรือตอบสนองความต้องการของคุณแม่แต่โดยดีบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะร้องขอจากเจ้าตัวแสบกันได้ง่ายๆ

1. ลูกไม่ยอมเข้านอน

ปัญหายอดฮิตที่คนเป็นแม่ต้องรับมือ ก็คือลูกไม่ยอมเข้านอน เมื่อถึงเวลานอน พยายามหาสารพัดวิธีมาแก้ปัญหา ไม่ให้นอนกลางวันก็แล้ว ให้เล่นจนเหนื่อยก็แล้ว หรือให้กินนมจนอิ่มแปล้ก็แล้ว แต่ลูกก็ยังไม่ยอมหลับสักที

ถ้าพยายามทำทุกทางขนาดนี้ ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าทำใจให้สบาย ให้เวลาลูกข่มตาหลับอีกนิด แต่ที่สำคัญคืออย่าใช้อารมณ์ขู่บังคับให้ลูกหลับ เพราะจะยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับการถูกส่งเข้านอนในคืนต่อไป

2. ลูกตื่นยาก

ตอนให้นอนก็ไม่อยากนอน แต่พอถึงเวลาตื่น เจ้าตัวแสบก็ไม่ค่อยอยากจะตื่น จนคุณแม่ต้องงัดสารพัดวิธีมาฉุดลากลูกออกจากเตียง ทั้งหอมแก้ม ทำเสียงรบกวน ตั้งนาฬิกาปลุก แต่กว่าลูกจะยอมตื่นและลุกออกจากเตียงได้…

บางทีคุณแม่อาจต้องลองแก้ปัญหาด้วยการทำให้ลูกมีแรงจูงใจที่จะลุกออกจากเตียงบ้าง เช่น บอกลูกว่าเช้านี้มีอาหารเช้าที่เขาชอบรออยู่ หรือบอกผลเสียว่าการอิดออดอยู่บนที่นอน จะทำให้เขาไม่มีเวลาเล่นของเล่นตอนเช้า

3. ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน

พอถึงวัยเข้าโรงเรียน อีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลายคนต้องกุมขมับทุกเช้า ก็คือพอได้ยินคำว่า “ไปโรงเรียนได้แล้ว” ทีไร เจ้าตัวแสบจะออกฤทธิ์ออกเดช งอแง ใส่คุณแม่แทบทุกที

แต่คุณแม่ก็ต้องใจแข็ง เมื่อส่งลูกถึงมือคุณครูแล้ว ก็ปล่อยให้ลูกเติบโตและเรียนรู้ชีวิตในโลกใบใหม่ของเขาต่อไป แต่อย่าลืมมารับลูกกลับบ้านให้ตรงเวลา จะได้ไม่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้ลูกน้อยนะคะ

4. ลูกไม่อาบน้ำ

เด็กๆ มักห่วงเล่นสนุก การโดนเรียกไปอาบน้ำแปรงฟัน เป็นเหมือนสัญญาณที่บอกว่า หมดเวลาเล่นสนุกสำหรับเขาแล้ว บ่อยครั้งคุณแม่จะเห็นว่าลูกงอแง ขัดขืน ด้วยการพยายามต่อรองว่า “ยังไม่อยากอาบตอนนี้” ดังนั้น คุณแม่ควรตกลงกับลูกว่า การอาบน้ำแปรงฟันเป็นหนึ่งในหน้าที่ที่ลูกต้องรับผิดชอบเมื่อถึงเวลา ไม่จำเป็นต้องรอให้อยากอาบน้ำก็ทำได้

5. ลูกไม่กินอาหารมีประโยชน์

กว่าจะพยายามหลอกล่อแกมเคี่ยวเข็ญให้ลูกกินอาหารมีประโยชน์ได้ ก็เล่นเอาคุณแม่หลายคนแทบหมดพลังงาน แต่เราก็รู้กันดีว่า อาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย มักมาพร้อมกับรสชาติไม่น่ายินดีสำหรับเด็กๆ เท่าไรนัก ก็ต้องพยายามอดทนและหาลูกเล่นมาดัดแปลงอาหารให้ถูกใจลูกน้อยกันต่อไปนะคะคุณแม่

6. ลูกไม่ทำการบ้าน

เด็กเล็กกับการบ้านไม่ใช่ของคู่กัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกลับมาจากโรงเรียนแล้ว แทนที่จะมีเวลาพักผ่อน ดูการ์ตูน ออกไปวิ่งเล่น ปั่นจักรยานกับเพื่อนๆ กลับต้องมานั่งทำการบ้านต่อ เด็กก็ย่อมงอแงเป็นธรรมดา ทางที่ดีคุณแม่ควรหาทางทำให้ลูกเห็นว่า การทำการบ้านไม่ใช่เรื่องยาก เช่น ช่วยสอน หรือถือโอกาสใช้ช่วงเวลาทำการบ้านของลูกมานั่งพูดคุยเป็นเพื่อน ให้ลูกรู้สึกว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าเบื่อเกินไปนัก

7. ลูกๆ ทะเลาะแย่งของกัน

คุณแม่ทุกคนย่อมอยากฝึกให้ลูกรู้จักแบ่งปัน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคน คุณแม่ก็ยิ่งพยายามให้พี่น้องรู้จักแบ่งปันซึ่งกันและกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นไปได้ยากมากที่เด็กจะเข้าใจว่า ทำไมพี่ต้องเสียสละของเล่นให้น้อง หรือทำไมน้องต้องรู้จักรอของเล่นจากพี่

ผลที่ตามมาก็คือ ถ้าคุณแม่ปล่อยพี่น้องเล่นกันตามลำพังละก็ เตรียมใจไว้เลยว่า ไม่นานเด็กๆ จะต้องทะเลาะเบาะแว้งและแย่งของเล่นกันเป็นธรรมดา ดังนั้น การเป็นผู้สงบศึกที่ดีก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่คุณแม่ต้องฝึกฝนฝีมือเอาไว้

8. แม่ต้องประหยัดและเก็บเงินไว้เผื่อยามจำเป็น

เพื่ออนาคตและความมั่นคงของลูก ทำให้คุณแม่ต้องวางแผนการใช้เงิน ตั้งแต่เริ่มคิดว่าจะตั้งครรภ์ ดังนั้น เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน งบประมาณการชอปปิ้งต่างๆ ที่เคยมี ก็อาจถูกจัดสรรปันส่วนมาเป็นเงินเก็บไว้ใช้กับการเรียน การทำกิจกรรม รวมไปถึงยามฉุกเฉินเมื่อลูกเจ็บป่วย

9. แม่ต้องแบ่งเวลาทำงานและเลี้ยงลูก

ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า ‘แม่’ นอกจากต้องรับบทบาทเลี้ยงดูลูกตลอดทั้งวันทั้งคืนแล้ว คุณแม่บางคนยังต้องออกไปทำงานหาเงินตามปกติ ต้องแบ่งเวลาเป็นแม่บ้าน คอยดูแลทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย ภาระหน้าที่เหล่านี้ เป็นสิ่งที่สร้างความหนักใจให้คุณแม่ทั้งหลาย เพราะกังวลว่าตัวเองจะทำอะไรขาดตกบกพร่องไป

เอาเป็นว่า ทั้ง 9 ข้อที่เรายกตัวอย่างมา อาจไม่ใช่ทั้งหมดของปัญหาความเครียดที่คนเป็นแม่ต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม M.O.M ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนเข้มแข็ง และรับมือกับทุกความยากในการเลี้ยงลูกไปได้ด้วยดีนะคะ