สามปีแล้วสินะ ที่เจ้าตัวเล็กได้มาอยู่ข้างกายพ่อกับแม่ คุณพ่อคุณแม่คงรู้สึกว่า การมีลูกทำให้โลกนี้อบอวลไปด้วยมวลความสุขมหาศาล กลับบ้านมาทีไร เห็นหน้าลูกแล้วก็ชื่นใจทุกที
แต่การเติบโตขึ้นไม่ได้มาพร้อมกับปัญหาที่น้อยลง เพราะในขวบปีที่สามของลูก จะมีเรื่องอะไรมาให้พ่อแม่ต้องปวดหัวบ้าง
เราลองรวบรวมปัญหาของเจ้าตัวเล็กในวัยสามขวบเอาไว้ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำใจ และเตรียมใจที่จะรับมือกับเด็กวัยนี้กันค่ะ
1. หวงพ่อหวงแม่
เด็กวัยสามขวบจะเริ่มทำตัวเหมือนพ่อแม่เป็นคู่แข่งด้านความรัก เช่น เมื่อเด็กผู้ชายเริ่มสนิทกับแม่ และเด็กผู้หญิงเริ่มสนิทกับพ่อมากขึ้น เขาจะไม่ชอบเห็นพ่อแม่อยู่ใกล้กัน หรือพูดคุยกันกะหนุงกะหนิง
เด็กผู้ชายอาจหวงคุณแม่ ไม่อยากให้ไปรักและเอาใจคุณพ่อ ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะเริ่มติดคุณพ่อ อ้อนและแสดงความเป็นเจ้าของคุณพ่อมากขึ้น
นอกจากนั้น ลูกจะเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ เช่น เด็กผู้หญิงจะชอบเอาส้นสูงของแม่มาใส่เล่น อยากทำกับข้าว ส่วนเด็กผู้ชายก็อยากทำตัวเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งพิงให้กับคุณแม่
2. นอนละเมอ
พ่อแม่คงตกใจไม่น้อย ที่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฮึมฮัมสักอย่างตอนกลางคืน ลูกลุกจากเตียงเดินละเมอพูดอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว แต่ตื่นเช้ามา กลับจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เลย
ทางที่ดี พ่อแม่ควรจัดห้องนอนให้ปลอดภัยจากของมีคม เก็บโต๊ะและเก้าอี้ให้เข้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเดินชนจนเป็นแผลฟกช้ำ และพยายามอย่าให้เด็กอดนอน เพราะการอดนอนจะกระตุ้นให้เด็กละเมอในตอนกลางคืน
3. ไม่อยากไปโรงเรียน
เด็กยังปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงไม่ทัน และกลัวว่าถ้าไปโรงเรียนแล้ว จะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก ทำให้เด็กมักจะร้องไห้งอแง ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ยอมกินข้าวเช้า ไม่ยอมอาบน้ำ ทำทุกหนทางเพื่อเลี่ยงการไปโรงเรียน
นอกจากจะให้ความมั่นใจเรื่องการไปโรงเรียนกับลูกแล้ว ก่อนเปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่ลองปรับกิจวัตรประจำวันของเขา ให้คล้ายกับวันที่ต้องไปโรงเรียนดู เช่น ให้ลูกเข้านอนเร็ว ตื่นเช้า เพื่อให้เด็กค่อยๆ ปรับตัวทีละนิด จนเกิดความเคยชิน เพื่อที่วันเปิดเทอมจะได้ลดปัญหาเหล่านี้ลงไปบ้าง
4. ชอบต่อรอง
เป็นธรรมดาที่ช่วงเวลาเล่นสนุกจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาที่ควรจะหยุดเล่น แต่ลูกก็ยังติดลม อยากเล่นต่ออีกนิด จึงเป็นที่มาของการหัดขอร้องหรือต่อรอง
คุณพ่อคุณแม่อาจใจอ่อน เพราะแพ้สายตาและคำพูดน่ารักๆ ของลูก แต่ที่จริง คุณควรใจแข็งและทำตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้น กฎกติกาและข้อตกลงของคุณจะไม่น่าเชื่อถือ เพราะลูกจะเข้าใจว่า ทำแบบนี้แล้วจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเสมอ
5. ฉี่รดที่นอน
เพราะยังควบคุมระบบขับถ่ายได้ไม่ดีพอ ทำให้เด็กฉี่รดที่นอนบ่อยๆ นั่นเอง แต่เรื่องนี้คงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพ่อแม่ ที่ต้องซักผ้าปูที่นอนใหม่ ยกที่นอนไปตากแดด
เด็กกำลังเรียนรู้และฝึกฝนนิสัยการขับถ่ายที่ดีอยู่ แต่การฝึกไม่ได้ราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป ดังนั้น จึงอยากให้พ่อแม่เข้าใจลูก มากกว่าที่จะดุด่าว่ากล่าว จนลูกสูญเสียความมั่นใจ
6. หวงของเล่น
เด็กๆ จะรู้สึกหวงของเล่นเป็นพิเศษ จนไม่ยอมแบ่งให้ใครเล่นเลย เพราะเด็กถ่ายโอนความรักที่มีต่อพ่อแม่ไปใส่ไว้ในของเล่น การถูกแย่งหรือพรากจากของเล่น อาจยิ่งใหญ่เท่ากับการถูกพรากความรักจากพ่อแม่ ลูกจึงไม่ยอมแบ่งปันของเล่นให้คนอื่นเล่น และอาจมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรง
การสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน ต้องทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นอย่างสม่ำเสมอ และชื่นชมเมื่อลูกแสดงออกถึงการแบ่งปันกับคนอื่นทุกครั้ง
COMMENTS ARE OFF THIS POST