READING

ไขความลับ พัฒนาสมองลูกรักด้วยสฟิงโกไมอีลิน...

ไขความลับ พัฒนาสมองลูกรักด้วยสฟิงโกไมอีลิน

เวลาที่คุณพ่อคุณแม่เฝ้ามองและเห็นว่าลูกรักมีพัฒนาการที่ดี ก็คงพอจะรู้กันดีว่า ความสามารถของลูก ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ การควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย คลาน เดิน วิ่งเล่น รวมถึงการคิด วิเคราะห์ และวางแผนต่างๆ ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นได้จากการทำงานของอวัยวะที่เรียกว่า สมอง

 

แต่การทำงานของสมองส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็ไม่สามารถทำให้คนเรามีความสามารถเหล่านี้ได้ แต่ยังต้องอาศัยกลไกสำคัญ คือ การเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (brain connection) และการเชื่อมโยงนั้นจะต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจะเรียกได้ว่าสมองกำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เปรียบให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หากเราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยสัญญาณ 5G ย่อมทำการรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่าการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ 3G หรือ 4G เช่น ถ้าใช้ 4G ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอออนไลน์ใช้เวลา 6 นาที แต่ถ้าเป็น 5G เราอาจจะใช้เวลาแค่ 6 วินาทีเท่านั้น!* (ที่มา)

S26_ADVERTORIAL_210519-01

เมื่อรู้ความลับข้อนี้แล้ว สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญก็คือทำให้ร่างกายได้รับสฟิงโกไมอีลินในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

แล้วทารกจะได้รับสฟิงโกไมอีลินได้จากไหน คำตอบก็คือ สฟิงโกไมอิลินพบได้มากในน้ำนมแม่และผลิตภัณฑ์นม เช่น ครีมและ ชีส ดังนั้นทารกจึงควรได้รับนมแม่อย่างเต็มที่

มีรายงานการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ทารกที่กินน้ำนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นเวลาสามเดือน จะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับผลการประเมินการเรียนรู้ที่ดีขึ้นของทารก

นั่นหมายความว่า สมองของคนเราสามารถพัฒนาได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงช่วงอายุสองปีแรกของชีวิต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงสามารถช่วยส่งเสริมการพัฒนาของสมองให้ลูกน้อยได้ด้วยการให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน และเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

S26_ADVERTORIAL_210519-02

และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง การทำให้เซลล์ประสาทในสมองเชื่อมต่อสัญญาณกันได้รวดเร็ว ก็เปรียบเสมือนการสร้างทางด่วนเพื่อให้การรับส่งข้อมูลในสมองเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ซึ่งสิ่งสำคัญในการสร้างทางด่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองก็คือ สฟิงโกไมอิลิน นั่นเอง

S26_ADVERTORIAL_210519-03

ดังนั้น เด็กจะมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามช่วงวัยทั้งทางร่างกายและสมองได้นั้น นอกจากพันธุกรรมและการเลี้ยงดูแล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับโภชนาการของลูกไปในเวลาเดียวกัน


RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST