READING

ลูกยิ่งเล็ก ธาตุเหล็กยิ่งสำคัญ: มอบอนาคตแข็งแรง สด...

ลูกยิ่งเล็ก ธาตุเหล็กยิ่งสำคัญ: มอบอนาคตแข็งแรง สดใส ด้วยอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

ภาวะซีด เป็นเรื่องไม่ไกลตัวที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยของเราได้โดยทั่วไป คุณแม่จะเข้าใจว่า ภาวะซีดคือการที่สีผิวของลูกดูซีดเผือดไปจากเดิม โดยเฉพาะบริเวณเปลือกตาล่าง และริมฝีปาก ซึ่งบ่อยครั้ง ที่เราสังเกตอาการเหล่านี้ของลูกด้วยตัวเองไม่พบ แต่กลับไปตรวจพบผ่านการวินิจฉัยของแพทย์

 

และเมื่อคุณหมอวินิจฉัยว่า ลูกกำลังมีภาวะซีดแล้ว จากที่เคยมองไม่ออกหรือที่คิดว่าไม่เป็นไร ก็ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เมื่อคุณหมอบอกว่า ภาวะซีดนั้นไม่ได้แค่ทำให้ลูกดูอ่อนแรง และไม่สดชื่นเหมือนเดิมเท่านั้น แต่หากปล่อยให้ลูกยังอยู่ในภาวะซีดต่อไปโดยไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลไปถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของลูกได้อีกด้วย

ลูกซีด ส่งผลเสียต่อสมอง

Pic1

ธาตุเหล็กเป็นเเร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ช่วยในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทรวมทั้งยังเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น หากร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่มากเพียงพอ ก็จะทำให้เกิดภาวะซีดได้

ภาวะซีดนั้น นอกจากจะทำให้ลูกดูอ่อนเพลีย ไม่สดชื่นแข็งแรง เบื่ออาหาร สิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นก็คือ ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2562 พบว่า เด็กที่มีภาวะซีดตั้งแต่วัยทารก และปล่อยให้เป็นอย่างเรื้อรัง อาจทำให้ค่า IQ ในช่วงวัยเรียนลดลงถึง 5-10 จุด ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็ก1

แล้วทำไม ในเด็กเล็ก ถึงเสี่ยงต่อภาวะขาดธาตุเหล็ก

Pic2

ตามธรรมชาติแล้ว น้ำนมแม่คืออาหารแรกและอาหารเดียว ที่มีสารอาหารครบถ้วน และเพียงพอต่อความต้องการในการเจริญเติบโตของลูก แต่ถึงเมื่อถึงอายุ 6 เดือน ธาตุเหล็กและสารอาหารหลายอย่างในน้ำนมแม่ จะเริ่มไม่เพียงพอ ต่อความต้องการของเด็กที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด2

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่องค์การอนามัยโลก แนะนำให้เด็กเริ่มอาหารมื้อแรก เมื่ออายุครบ 6 เดือนขึ้นไป โดยอาหารนี้ ไม่ได้เข้ามาแทนที่ แต่เป็นคู่หูที่จะเดินเคียงข้างไปกับนมแม่ เพื่อเติมสารอาหารให้เพียงพอตามที่ร่างกายของลูกต้องการ3

อาหารมื้อแรก ที่ไม่ใช่ว่าจะกินอะไรก็ได้

Pic3

เด็กในวัย 6 เดือนถึง 1 ขวบ มีความต้องการธาตุเหล็ก 9.3 มิลลิกรัมต่อวัน4 หรือเทียบเท่าไข่ไก่มากถึง 12 ฟอง แต่กระเพาะอาหารของลูกน้อยนั้น กลับมีขนาดเล็กกว่าของผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า ดังนั้นอาหารที่ลูกกินในแต่ละมื้อ จึงจำเป็นจะต้องได้รับการคัดสรร เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกสิ่งที่ลูกกินเข้าไปมีสารอาหารที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

Pic4

อาหารที่มีธาตุเหล็กสูงนั้นส่วนใหญ่อยู่ในประเภทสัตว์เนื้อแดง และเครื่องในสัตว์ เช่น ตับ อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย เนื้อปลา ผักและถั่วหลายชนิดก็มีประมาณธาตุเหล็กสูงเช่นกัน ทั้ง บล็อกโคลี คะน้า ผักโขม ถั่วเหลือง (รวมถึงเต้าหู้) ถั่วแดง งาดำ และไข่แดง

และในหนึ่งมื้อ นอกจากธาตุเหล็กแล้ว ยังควรมีอาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย เพราะวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น

อาหารหลากหลาย ดูน่าจะนำไปทำได้หลากหลายเมนู แต่ความกังวลของคุณแม่ก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะเมื่อถึงเวลากินจริงๆ ลูกน้อยก็ทั้งเลือกกินบ้าง กินไม่หมดบ้าง กินได้ไม่ครบถ้วนตามปริมาณ ที่ควรจะได้รับบ้าง แล้วอย่างนี้ ลูกจะได้รับธาตุเหล็กเพียงพอได้อย่างไร

Pic5

เพราะความซีดไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่จะปล่อยผ่านไปได้ สุขภาพของลูกสำคัญและต้องมาก่อนเสมอ การให้ลูกได้รับอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารสำคัญครบถ้วน จะเป็นดั่งรากฐานที่ทำให้ลูกน้อยแข็งแรง คุณแม่เองก็หมดความกังวลใจ เพื่อที่จะได้ส่งเสริมให้ลูกน้อยได้เติบโตและทำในสิ่งที่เขารัก โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ

ด้วยความห่วงใยจากเนสท์เล่ซีรีโกรว

#เนสท์เล่ซีรีโกรว
#Nestleceregrow
#ใส่ใจทุกคำ
  1. matichon
  2. Unicef
  3. nestlemomandme
  4. tmwa

COMMENTS ARE OFF THIS POST