READING

MilkLympic กีฬาสีนม: นมยูเอชทีกล่องไหนจะขึ้นแท่นเข...

MilkLympic กีฬาสีนม: นมยูเอชทีกล่องไหนจะขึ้นแท่นเข้าวิน ชนะใจคุณแม่ยุคใหม่ รีวิวส่งท้ายปลายปี 2019 ที่นี่ที่เดียว

อะไรที่เป็นครั้งแรกของลูกนั้น ย่อมสำคัญกับคุณแม่เสมอ นมกล่องแรกของลูกก็เช่นกัน เพราะเมื่อถึงเวลาที่ลูกจะเปลี่ยนจากนมผงเป็นนมกล่อง คุณแม่ยุคใหม่หลายคนก็เริ่มค้นหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบสารอาหาร เพราะเมื่อลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้พัฒนาการของเขาเป็นไปอย่างสมวัย ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา แถมยังต้องศึกษาเทคนิคเคล็ดลับการปรับจากเดิมที่ลูกกินนมขวดมาเป็นนมกล่องอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

 

เพื่อประกอบการตัดสินใจ เราเลยขอเลือกตัวแทนนมชั้นนำที่เป็นที่นิยมของคุณพ่อคุณแม่ มาลงสนามแข่งขันในมหกรรมกีฬาสีนม MilkLympic เพื่อวัดกันไปเลยว่า ถ้าเทียบกันตามหมวดสำคัญๆ สำหรับการเลือกซื้อนมกล่องสักกล่องนั้น นมกล่องยี่ห้อไหนจะมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการคว้าเหรียญทองไปมากที่สุด

เมื่อพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลย 3… 2…1 ปัง!

1. พลังงานดีเด่น

เด็กในวัยหนึ่งปีขึ้นไป เริ่มแปลงร่างเป็นนักสำรวจโลกตัวน้อยผ่านการเล่น การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งวัน ทำให้เด็กๆ มีความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น เด็กอายุ 1-3 ปีจะต้องการพลังงาน 700-900 กิโลแคลอรีต่อวัน และ 1,000-1,300 กิโลแคลอรี เมื่ออายุ 3-5 ปี

เมื่อมาดูยี่ห้อนมที่เราเลือกมาทำการแข่งขัน พบว่านมส่วนใหญ่จะให้พลังงานอยู่ที่ 100-140 กิโลแคลอรีต่อกล่องขนาดมาตรฐาน คือปริมาณประมาณ 180 มิลลิลิตร โดยนมที่ให้พลังงานมากที่สุดสามอันดับแรก ไล่จากที่สาม คือ Enfagrow A+ 3 พลังงานอยู่ที่ 120 ถัดมาคือ Enfagrow A+ Superior และ S-26 Gold Progress 3 ให้พลังงานอยู่ที่ 140 กิโลแคลอรี เท่ากัน

ดูเหมือนว่า Enfagrow A+ Superior และ S-26 Gold Progress 3 จะได้ครองที่หนึ่งร่วมกันเสียแล้ว แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดอยู่เล็กน้อย คือพลังงานจากไขมัน ได้แก่ S-26 Gold Progress 3 มีปริมาณพลังงานจากไขมัน 60 กิโลแคลอรีเท่ากัน ส่วน Enfagrow A+ Superior นั้นมีน้อยกว่าอยู่สิบแต้ม คือ 50 กิโลแคลอรี

สำหรับเด็กๆ ไขมันช่วยสร้างพลังงานแก่ร่างกายและช่วยการดูดซึมวิตามินบางตัว เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค แต่ร่างกายเด็กอายุ 3-5 ปี ไม่ควรได้รับไขมันเกินกว่าร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งปริมาณไขมันของนมทั้งสามกล่องนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเยอะเกินไปแต่อย่างใด

ดังนั้น เหรียญรางวัลแรกในหมวดพลังงานดีเด่น เราจึงยกให้กับ S-26 Gold Progress 3 ไป

 

พลังงาน

พลังงานทั้งหมด พลังงานจากไขมัน
S-26 Gold Progress3 140 กิโลแคลอรี 60 กิโลแคลอรี
Hi-Q1 Plus สูตร3 120 กิโลแคลอรี 50 กิโลแคลอรี
Enfagrow A+ Superior 3 140 กิโลแคลอรี 50 กิโลแคลอรี
Enfagrow A+ 3 120 กิโลแคลอรี 60 กิโลแคลอรี
Foremost OMEGA GOLD 100 กิโลแคลอรี 40 กิโลแคลอรี
Dumex Gold Plus UHT โกลด์พลัส 3 100 กิโลแคลอรี 40 กิโลแคลอรี

2. สารอาหารเสริมสร้างสมองดีเด่น

เรื่องสารอาหารเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่คุณแม่ใช้ในการเลือกนมกล่องแรกให้กับลูก เชื่อว่าคุณแม่แทบทุกคนต้องเคยผ่านการพลิกอ่านข้างกล่องนมอย่างเข้มข้นกันมาแล้ว อ่านไปก็เทียบไป ว่ายี่ห้อไหนให้สารอาหารครบถ้วนกว่า มาทางนี้ค่ะ เราสรุปมาให้แล้ว

นอกเหนือไปจากสารอาหารหลักที่เรารู้จักกันดีเช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน ธาตุเหล็ก ซึ่งในนมแต่ละยี่ห้อก็มีปริมาณไม่ต่างกันมาก อีกสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสนใจประกอบการพิจารณา คือสารอาหารที่สำคัญต่อการเสริมสร้างสมองของลูกรัก ได้แก่ ดีเอชเอ, โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน, ทอรีน และตัวใหม่มาแรง ที่เราอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อกัน นั่นก็คือ ลูทีน

ลูทีนเป็นสารอาหารที่พบในสมองและดวงตา ทำหน้าที่ป้องกันแสงสีฟ้า ที่จะมาทำลายดวงตาของเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกให้อยู่ห่างหน้าจอแค่ไหน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกยุคใหม่ เดินออกไปทางไหนก็มีแต่หน้าจอเต็มไปหมด แสงสีฟ้าจากหน้าจอทั้งเล็กและใหญ่ จะรบกวนดวงตาของลูกรักได้ง่ายมาก การปกป้องดวงตาของลูกจึงเป็นอีกสิ่งที่คุณแม่ต้องสนใจ

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลงานวิจัยเพิ่มเติมว่า นอกจากลูทีนจะช่วยปกป้องตาของลูกได้แล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองอีกด้วย เพราะมีการพบลูทีนสะสมในสมองของทารกในส่วนที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ* ลูทีนจึงเป็นสารอาหารที่น่าจับตามอง ที่สำคัญก็คือ ลูทีนนั้น เป็นสารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับผ่านอาหารเท่านั้น

เมื่อลองเทียบปริมาณสารอาหารอย่าง ดีเอชเอ, โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน แต่ละยี่ห้อก็ไล่เบียดกันมาอย่างสูสี แต่จะมีขึ้นนำอย่างเห็นได้ชัด ก็จะเป็น S-26 Gold Progress 3, Enfagrow A+ Superior และ Foremost OMEGA GOLD ที่โดดเด่นกันไปคนละแบบ Enfagrow A+ Superior และ Foremost OMEGA GOLD นั้นมีดีเอชเอสูง แต่ S-26 Gold Progress 3 ก็สามารถสู้ด้วยปริมาณ โอเมก้า 3, 6, 9, และโคลีน ที่ล้วนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างสมองลูกน้อย ที่เยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด

และเมื่อตัดสินด้วยภาพช้า จะพบว่า S-26 Gold Progress 3 เป็นเพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น ที่ให้สารอาหารสำคัญอย่างลูทีน ในประมาณ 34 ไมโครกรัม

ดังนั้น ผู้ชนะในหมวดสารอาหารเสริมสร้างสมองดีเด่น จึงตกเป็นของ S-26 Gold Progress 3 แบบไม่ต้องสงสัย

 

 

สารอาหารเสริมสร้างสมองดีเด่น

ดีเอชเอ โอเมก้า 3
(กรดไลโนลินิก)
โอเมก้า 6
(กรดไลโนลีอิก)
โอเมก้า 9
(กรดโอลีอิท)
โคลิน ทอรีน

ลูทีน

S-26 Gold Progress3 8 มก. 142 มก. 884 มก. 2,127 มก. 12 มก. 34 มก.
Hi-Q1 Plus สูตร 3 8 มก. 41 มก. 300 มก. 1400 มก. 19 มก. 20 มก.
Enfagrow A+ Superior 3 25 มก. 40 มก. 240 มก. 900 มก. 10 มก. 5.4 มก.
Enfagrow A+ 3 8 มก. 41 มก. 62 มก. 1,100 มก. 18 มก.
Foremost OMEGA GOLD 27 มก. 80 มก. 280 มก. 1,300 มก. 28 มก. 18 มก.
Dumex Gold Plus UHT โกลด์พลัส 3 5 มก. 40 มก. 250 มก. 1,090 มก. 19 มก. 24 มก.

3. แคลเซียมดีเด่น

ความเชื่อที่เติบโตมาพร้อมกับเราทุกคนคือ กินนมเยอะๆ แล้วจะสูง นั่นเพราะ นมเป็นหนึ่งแหล่งอาหารสำคัญที่ของแคลเซียม แร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนในการสร้างกระดูกและฟัน อันจะมีผลต่อความแข็งแรงของร่างกาย และความสูง เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับปริมาณแคลเซียม 500 มิลลิกรัมต่อวัน

นม UHT แต่ละยี่ห้อนั้นจะมีปริมาณแคลเซียม คิดเป็นร้อยละของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน เฉลี่ยอยู่ที่ 20-40% โดยยี่ห้อที่ให้แคลเซียมสูงที่สุดก็คือ Foremost OMEGA GOLD อยู่ที่ 40% ถือว่าสูงมากเลยทีเดียว

ดังนั้น ผู้ชนะในหมวดแคลเซียมดีเด่น ก็ต้องยกให้ Foremost OMEGA GOLD เลย

 

แคลเซียมดีเด่น แคลเซียม
S-26 Gold Progress3 20%
Hi-Q1 Plus สูตร 3 20%
Enfagrow A+ Superior 30%
Enfagrow A+ 3 30%
Foremost OMEGA GOLD 40%
Dumex Gold Plus UHT โกลด์พลัส 3 25%

4. รสชาติดีเด่น

ความอร่อยไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะถึงแม้นมกล่องนั้นจะมีสารอาหารครบถ้วนฟินหัวใจแม่แค่ไหน แต่ถ้าลูกไม่กินก็คือจบ ดังนั้น รสที่ทำให้เด็กๆ ดื่มง่าย ก็จะช่วยให้ลูกน้อยกินนมได้จนหมดกล่อง รับสารอาหารเข้าร่างกายกันไปให้เต็มที่

แต่ถึงอย่างนั้น ตามคำแนะนำของคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เด็กๆ ควรเริ่มต้นกินนมรสจืด เพื่อให้เด็กๆ ไม่ติดรสชาติ โดยเฉพาะรสหวาน อันจะนำไปสู่สุขนิสัยด้านการกินที่ไม่ดีในตอนโต ดังนั้น นมกล่องแรกที่คุณแม่เลือกให้ลูก ก็ควรเป็นรสจืดตามคำแนะนำ

ซึ่งบรรดานมที่เราเลือกมาทำการรีวิวนั้น ล้วนเป็นรสจืดทั้งสิ้น โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีรสชาติและรสสัมผัสที่แตกต่างกันไป ส่วนกล่องที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ก็คือ S-26 Gold Progress 3 ที่แม้จะเป็นรสจืด แต่ก็มีกลิ่นหอมวนิลาอ่อนๆ เข้ามาแตะลิ้นในทุกการดูด ทำให้เราอยากจะดูดเพิ่ม อยากกินเพิ่มอีกอึก ซึ่งเราก็เชื่อว่า ด้วยกลิ่นหอมนวลๆ แบบนี้ จะทำให้เด็กๆ ชื่นชอบการดื่มนมมากยิ่งขึ้น

ก็เลยยกรางวัลรสชาติดีเด่นให้กับ S-26 Gold Progress 3 ไปเลยจ้า

5. สีสันสดใส ถูกใจลูกน้อย

เป็นอีกหนึ่งหมวดที่ยังคงหมุนรอบตัวลูก และถึงแม้จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่อาจจะมีผลต่อการอยากกินนมของลูกในแบบที่คุณแม่อาจจะคิดไม่ถึงก็ได้ เมื่อการเปลี่ยนจากการกินนมผงผ่านขวดนม มาเป็นการดูดนมจากกล่อง ลูกต้องปรับตัวหลายอย่างมาก ทั้งวิธีการกินที่เปลี่ยนไป รวมถึงรสชาติที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งความยากง่ายในช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน รวมถึงวิธีการที่คุณแม่เลือกใช้ด้วย

ดังนั้น ตัวช่วยเล็กๆ น้อยๆ อย่างสีสันลวดลายบนกล่อง ก็อาจดึงดูดความสนใจจากลูก ช่วยให้การกินนมแต่ละครั้งสนุกสนาน โดยคุณแม่ อาจสร้างเรื่องเล่า จากตัวละครที่อยู่หน้ากล่อง เพื่อกระตุ้นลูกให้อยากดื่มนมก็ได้

นมยูเอชทีที่เรานำมาทำการรีวิว ส่วนใหญ่จะมีดีไซน์กล่องเป็นสีโทนเหลือง ทอง เป็นหลัก และมีการเติมคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนเข้าไป เพื่อให้ถูกใจเด็กๆ โดยมีทั้งคุณสิงโต, คุณปลา, คุณนกฮูก หรือบางยี่ห้อก็ใส่เป็นภาพเด็กจริงๆ เข้าไปเลย

ด้วยความที่แทบทุกยี่ห้อมีสีสันลวดลายไม่ต่างกันมาก และตัวการ์ตูนแต่ละตัวก็น่ารักน่าเอ็นดูจนไม่อยากเลือกใคร การตัดสินจึงเป็นไปได้ยาก เราจึงตัดสินให้กล่องที่มีสีสันแตกต่าง จนเราต้องมองเห็นเป็นกล่องแรกแน่ๆ เมื่อเดินผ่าน นั่นคือ Hi-Q 1 Plus สูตร 3 สีน้ำเงินเข้มสวยงาม มีคุณปลาหน้าตาน่ารักยิ้มทักทายเด็กๆ

รับรางวัลไปเลยจ้า

6. ราคาสบายกระเป๋าดีเด่น

นมยูเอชทีสูตรที่มีการเสริมสารอาหารนั้นจะมีราคาสูงกว่าแบบนมวัว 100% อยู่แล้ว โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่กล่องละ 15-25 บาท ที่มีราคาสูงกว่าก็เพราะในนมหนึ่งกล่องนั้นจะมีการเติมสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไป เพื่อให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกรักจะได้รับประโยชน์เต็มที่จากนมกล่องนี้

ราคาที่เรานำมาใช้ในการเปรียบเทียบนั้นเป็นแบบราคาเต็ม ไร้ซึ่งโปรโมชัน พบว่านมกล่องที่ราคาสูงที่สุดคือ Enfagrow A+ Superior ราคาอยู่ที่ 24 บาทต่อกล่อง ตามด้วย Enfagrow A+ 3 ที่ 19 บาท และ Hi-Q1 Plus สูตร 3 18.75 บาท

ส่วนกล่องที่ราคาสบายกระเป๋า มีราคาใกล้กันอยู่สองยี่ห้อ คือ Dumex Gold Plus UHT 3 15.67 บาท และ Foremost OMEGA GOLD 15.3 บาท แม้จะตัดกันที่เศษทศนิยม ก็ต้องยอมยกตำแหน่งราคาสบายกระเป๋าให้กับ Foremost OMEGA GOLD ไปเลย

ทั้งนี้ หากคุณแม่เลือกซื้อในตอนที่มีโปรโมชันเด็ดๆ ทั้งในออนไลน์และที่ร้านค้า ก็อาจทำให้คุณแม่ได้นมกล่องโปรด ในราคาชวนให้ยิ้มได้ก็ได้นะคะ ลองติดตามข่าวสารโปรโมชันแบบเกาะติด อย่าให้พลาดเลย

 

ราคาสบายกระเป๋าดีเด่น ราคา (ต่อกล่อง)
S-26 Gold Progress3 17.25 บาท
Hi-Q1 Plus สูตร 3 18.75 บาท
Enfagrow A+ Superior 24 บาท
Enfagrow A+ 3 19 บาท
Foremost OMEGA GOLD 15.3 บาท
Dumex Gold Plus UHT 3 15.67 บาท

7. สรุปผลการแข่งขัน

เมื่อได้ดูรายละเอียดของนมยูเอชทีแต่ละกล่อง ก็พบว่ามีความเหมือนและต่างกัน แล้วแต่ยี่ห้อว่าเขามีการให้ความสำคัญกับเรื่องใดเป็นพิเศษ การเลือกนมหนึ่งกล่องให้กับลูกน้อย จึงต้องอาศัยข้อมูลหลายๆ ด้านประกอบกัน โดยคุณแม่อาจจะเลือกจากราคา รสชาติ หรือสารอาหารเป็นหลักก็ได้ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน การเลือกของคุณแม่ก็เต็มไปด้วยความหวังดีให้กับลูกอยู่แล้ว

แต่ถ้าเราจะต้องยกตำแหน่ง Editor’s choice ให้กับนมสักกล่อง หลังผ่านการครุ่นคิดอย่างหนัก เราก็ตัดสินใจยกตำแหน่งนี้ให้กับ S-26 Gold Progress 3 ด้วยความครบครันทั้งเรื่องพลังงานดีเด่น ให้สารอาหารครบถ้วน แถมยังมีปริมาณของสารอาหารสำคัญในการเสริมสร้างสมองอย่าง ดีเอชเอ, โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน และที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ลูทีน สารอาหารสำคัญในการปกป้องดวงตาของลูกรัก คุ้มค่าคุ้มราคาที่อาจสูง แต่เมื่อเทียบกับสารอาหารคับกล่อง คุณแม่ก็ต้องบอกว่า #ให้ผ่านค่ะ

เพราะนมกล่องแรกของลูกนั้นสำคัญจริงๆ คุณแม่จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เพื่อส่งผลต่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางร่างกาย และสติปัญญา

เพราะเรื่องสำคัญของลูก ไม่มีคำว่า อะไรก็ได้


COMMENTS ARE OFF THIS POST