แม้สิ่งกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้จะมีมากมายหลายประเภท แต่มี 5 อันดับสิ่งกระตุ้น โรคภูมิแพ้ในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ดังนี้
เด็กๆ จำเป็นต้องใช้ทักษะที่หลากหลาย เพื่อการเติบโตทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์รวมถึงการมีทักษะที่หลากหลายและจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ หนึ่งในทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ ทักษะการสื่อสาร (Communication skill) ที่ควรได้รับการฝึกและปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก
การทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด แทนที่เด็กๆ จะได้เล่นสนุก เสริมสร้างทักษะและพัฒนาการอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจ ความร้อน อาจทำให้ลูกเป็น โรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก (Heat Stroke) จนเกิดอันตรายได้
หากคุณพ่อคุณแม่พยายามให้ ลูกเรียนหนักเกินไป หรือจัดตารางชีวิตลูกให้อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมส่งเสริมทักษะ เด็กบางคนอาจจะไปได้ดี แต่มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ตรงกันข้าม ทั้งยังมีโอกาสที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในอนาคตอีกด้วย
สาเหตุของ ลูกใจร้อน อาจเกิดจากอาการของ โรคทนรอไม่ได้ (hurry sickness) เช่น หงุดหงิด กระวนกระวาย ใจร้อน และฉุนเฉียวเมื่อต้องรอคอย
จากสถิติข้อมูลของชมรมมะเร็งในเด็ก พบว่า ประเทศไทยมีเด็กที่เป็นโรคมะเร็งประมาณ 100 คน จากประชากรเด็กในประเทศ 1,000,000 คน ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจที่ช่วงอายุที่พบมากที่สุดก็คือเด็กเล็กอายุประมาณ 0-5 ปี
บ่อยครั้ง เรามักเห็นคลิปเด็กๆ ที่ถูกถ่ายโดยคุณครู เหมือนหลงลืมไปว่า เด็กๆ คือลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกโรงเรียนและไว้วางใจให้คุณครูเป็นผู้ดูแลลูกน้อยของตน และเมื่อคลิปเหล่านี้ถูกแชร์ออกไป หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องน่ารักและขบขัน แต่นั่นเท่ากับเรากำลังส่งเสริมให้ครูกลายเป็นคนที่มองเห็นการละเมิดสิทธิเด็กเป็นเรื่องธรรมดาใช่หรือไม่
การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม คุณพ่อคุณแม่ควร สอนลูกให้รู้จักเกรงใจคนอื่น และคำนึงถึงผู้อื่น มีน้ำใจ และมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น
และนี่คือประโยชน์ 4 ข้อของ ความฉลาดทางอารมณ์ ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังและส่งเสริมให้ลูกมีติดตัวตั้งแต่ยังเล็ก
วันที่ 20 มีนาคมของทุกปี เป็น วันความสุขโลก และใช้โอกาสนี้ในการเรียกร้องให้แต่ละประเทศผลักดันนโยบายเพิ่มความสุขให้กับประชาชนอีกด้วย