การค้นหาตัวเอง เป็นสิ่งที่เด็กในวัยมัธยมหรือมหาวิทยาลัยมักถูกตั้งคำถาม หรือกดดันอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นวัยที่ต้องเลือกเส้นทาง และตัดสินใจสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเอง เช่น เราเป็นคนอย่างไร เราชอบอะไร เรามีข้อดีอย่างไร เราอยากทำอะไรต่อไป แต่การจะตอบคำถามเหล่านี้ ไม่ได้เริ่มต้นตอนเลือกแผนการเรียน หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันเริ่มตั้งแต่ยังเด็ก
คุณพ่อแม่ควรลูกฝังความมั่นใจในตัวเอง และหัวใจที่อิสระเปิดกว้างให้กับลูก เพื่อที่ลูกจะได้กล้าคิด กล้าทำ ลองผิดลองถูก เพราะนั่น คือ กระบวนการ และขั้นตอนในการค้นหาตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งเขารู้จักตัวเองไวเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นผลดีกับชีวิตเท่านั้น วันนี้เราจึงมีนิทานที่จะช่วยเพิ่มควมมั่นใจ และสร้างทัศนคติที่ดีกับตัวเองมาแนะนำทั้งหมด 3 เล่มด้วยกัน
1. นายอำเภอฟันหลอ
เรื่องและภาพ: เควนติน เกรบาน
แปล: ดร. กนกพร วิบูลพัฒนะวงศ์
สำนักพิมพ์: คิดบวก
‘บิลลี่’ ลูกเสือน้อยที่เพิ่งสูญเสียฟันน้ำนมซี่แรก การสูญเสียฟันน้ำนมนี้ เป็นสัญลักษณ์ว่ามันกำลังเติบโตขึ้นและในวันเดียวกันมันก็กลายเป็นนายอำเภอของเมืองหุบเขากระบองเพชร แต่เมื่อฟันหลอ มันจึงพูดไม่ชัด และการเป็นลูกเสือตัวเล็กที่พูดไม่ชัดคืออุปสรรคใหญ่ของการเป็นนายอำเภอ เพราะไม่มีโจรคนไหนเกรงกลัวมันเลย
ก็ดูบิลลี่พูดสิ “หยุกนะ ป้วกนายตูกจักกุงแย้ว”
บิลลี่เกือบจะถอดใจและเลิกเป็นนายอำเภอ จนกระทั้ง แจ๊คเขายาว วายร้ายชื่อดัง เดินทางมาปล้นเมืองหุบเขากระบองเพชร มันจึงต้องฮึดสู้เพื่อปกป้องเมืองของมันไว้ และกลายเป็นว่า การพูดไม่ชัด จุดอ่อนเดียวของมันกลับเป็นสิ่งที่ทำให้มันจับแจ๊คเขายาวได้
บิลลี่ คือตัวแทนของเด็ก ๆ ที่มักจะถูกมองข้าม จนไม่มั่นใจ และไม่เห็นความสามารถที่ตนมี แต่เพียงบิลลี่ฮึดสู้ และเชื่อมั่นในตนเอง มันก็ทำได้ แสดงว่าเด็ก ๆ เองก็ทำได้เช่นกัน
2. ตัวโม่งอยากเป็นผีเสื้อ
เรื่อง: Sujin Cha
ภาพ: Jaesung Kim
แปล: พิมพ์วรรณ หล้าวงษา
สำนักพิมพ์: นานมีบุ๊คส์คิดดี้
ตัวโม่งและหนอนเป็นเพื่อนกัน หนอนมีการเจริญเติบโตตามวัฐจักรของมัน คือกลายเป็นดักแด้ และ กลายเป็นผีเสื้อ ในขณะที่ตัวโม่งเอง ใช้วิธีการลอกคราบ วันหนึ่งหนอนได้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวย ในขณะที่ตัวโม่งยังคงเป็นตัวโม่งอยู่ มันจึงคิดอยากเป็นอย่างผีเสื้อบ้าง สุดท้าย หลังจากตัวโม่งลอกคราบอีกครั้ง มันก็ได้ค้นพบว่า มันไม่ได้เป็นผีเสื้อแสนสวย แต่มันเป็นแมลงปอที่สวยที่สุดต่างหาก
ภายใต้เนื้อหาวิทยาศาสตร์เรื่อง การเจริญเติบโตของแมลงที่นิทานจงใจนำเสนอ เราสัมผัสได้ถึงแนวคิดที่ว่าทุกคนจะเติบโตไปงดงามในแบบของตัวเอง
ในตอนที่ยังเป็นเด็ก ทุกคนมีบุคคลที่ชื่นชม ยกเป็นต้นแบบ และอยากเป็นให้ได้แบบนั้น ซึ่งแม้ในวันข้างหน้าเราจะไม่ได้เติบโตไปเป็นเช่นเขา ก็ไม่เป็นไร เราไม่จำเป็นต้องดีเหมือนใคร แค่ดีที่สุดในรูปแบบของตัวเองก็เพียงพอ
3. วิธีเป็นสิงโต
เรื่องและภาพ: เอ็ด เวียร์
แปล: น้านกฮูก
สำนักพิมพ์: แฮปปี้คิดส์
‘เลนเนิร์ด’ คือสิงโตผ่าเหล่า เพราะมันไม่ดุร้าย มันไม่กินเป็ด มันชอบความสงบ และการแต่งบทกลอน ความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่างทำให้สิงโตตัวอื่น ๆ ไม่พอใจ
“มีแค่หนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นสิงโตได้… เลนเนิร์ด เธอต้องดุร้ายสิ”
แต่เลนเนิร์ดไม่คิดแบบนั้น เพราะมันกับ ‘แมเรียน’ เป็ดเพื่อนซี้ของมันจึงคิดหาสันติวิธี โดยแต่งบทกลอนเพื่อโน้มน้าวใจสิงโตตัวอื่น ๆ
บางส่วนในบทกลอนกล่าวว่า
“… อย่าไปฟังใครเขาแนะ ว่ามีเพียงทางเดียว
เพราะมีตั้งหลายทางเชียว เดี๋ยวก็ได้เป็นตัวเอง
ถ้าต้องทำในสิ่งที่ต้อง งั้นเราลองทำกันไหม
ทำไมเธอไม่เป็นเธอ… แล้วฉันก็เป็นฉัน”
หากการเป็นสิงโตนั้น เปรียบได้กับภาพจำหรือค่านิยมต่างๆ ที่มาตีกรอบ จำกัด ความสามารถที่แตกต่างของเรา เราก็ได้รู้แล้วว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใครๆ มันไม่ได้มีวิธีการเดียวที่จะเป็นสิงโตได้ เป็นตัวเองดีที่สุดแล้ว และอย่าลืมเคารพตัวตนของคนอื่นด้วย
หากสังเกตในภาพ จะเห็นว่าในกลุ่มของสิงโตดุร้าย (สิงโตสีส้ม) มีสิงโตตัวหนึ่งที่แท้จริงก็อ่อนโยนไม่ต่างจากเลนเนิร์ดอยู่ ตัวที่กำลังมองผีเสื้อยังไงล่ะ บางทีมันอาจจะต้องฝืนดุร้ายมาโดยตลอด และหวังว่าบทกลอนของเลนเนิร์ดจะทำให้มันกล้าเป็นตัวของตัวเองสักที
—
จากหนังสือนิทานทั้ง 3 เล่ม ลูกเสือบิลลี่ บอกให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง และฮึดสู้ ตัวโม่ง บอกให้เรารู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใคร เพราะเราทุกคนจะเติบโตไปเป็นสิ่งสวยงามตามแบบของตน และสิงโตเลนเนิร์ดก็ได้ย้ำเตือนอีกว่า แม้เราจะแปลกแตกต่าง มันก็ไม่ผิดอะไร ของแค่เราได้เป็นตัวเราก็พอ
3 สิ่งนี้ ความมั่นใจ การไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร และความกล้าที่จะแตกต่าง ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเข้าไปค้นหา และทำความรู้จักกับตัวเอง ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่หนังสือนิทานสามารถมอบให้กับเด็กทุกคน ยังมีนิทานแนวนี้อีกมากมาย อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองไปหามาอ่านให้ลูกๆ ฟังกันนะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST