จากผู้เขียน:
บนโลกใบนี้มีเด็กที่น่ารักอยู่มากมายและเด็กที่ไม่น่ารักอีกมากมายเช่นกัน เด็กๆ เป็นเพียงผลผลิตจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาเท่านั้น ความไม่น่ารักของเขาจึงสะท้อนความไม่น่ารักของคุณทุกคนด้วย
ดังนั้นอย่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมเด็กโดยการกีดกัน แบ่งแยก และตีตราว่าเขาเป็นเด็กที่น่ารักหรือไม่ เพราะไม่ใช่ความผิดของเด็กที่บังเอิญเติบโต มาในพื้นที่ที่ไม่น่ารักกับเขาก่อน หากผู้ใหญ่พร่ำบอกว่าเด็กคนหนึ่งว่าเขาไม่ใช่เด็ก ที่น่ารัก เขาก็จะไม่มีวันเป็นเด็กที่น่ารักได้ และกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่น่ารักในที่สุด
ในขณะที่เด็กอีกหลายคนโชคดีกว่า ได้เกิดมาในพื้นที่ที่ใจดีกับเขา ก็จะถูกสั่งสอนจนเกิดการเรียนรู้ที่จะแบ่งแยกผู้คนโดยไม่รู้ตัว ทำให้เด็กที่น่ารักในวันนี้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่น่ารักในอนาคตได้เช่นกัน
คุณสามารถเป็นหนึ่งสิ่งแวดล้อมดีๆ ให้แก่เด็กได้โดยการปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเท่าเทียมและมีไมตรี
เช้าวันเสาร์นี้ คุณแม่พาน้องแก้วมาเล่นที่สนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้านเป็นครั้งแรก น้องแก้วตาลุกวาวเมื่อเห็นสนามแสนกว้างใหญ่ที่มีเครื่องเล่นมากมาย และเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันเต็มไปหมด
“หนูขอไปเล่นกระบะทรายตรงนู้นนะคะ” น้องแก้วรีบร้องบอก
“ได้จ้ะ แต่อย่าเล่นเลอะเทอะให้มาก แล้วก็อย่าไปเล่นกับหมาแมวแถวนี้ล่ะ เดี๋ยวจะโดนกัดเอา” คุณแม่ตอบ
น้องแก้วพยักหน้าหงึกๆ แล้วรีบวิ่งไป ส่วนคุณแม่ก็นั่งรอที่ม้านั่งเช่นเดียวกับแม่ของเด็กคนอื่นๆ
“เล่นด้วยดิ” เสียงดังกังวานจากเด็กชายแปลกหน้าเอ่ยถามน้องแก้ว
“ได้สิ” น้องแก้วตอบ แล้วยื่นพลั่วพลาสติกของเธอให้เด็กชายคนนั้น
“อะไร ฉันไม่เอา” เด็กชายปฏิเสธ
“อ่าว ก็เธอขอเล่นด้วยกันกับฉัน ฉันก็เลยจะแบ่งพลั่วให้ไง ไว้ขุดทราย ฉันมีสองอัน เอาไปสิ” น้องแก้วตอบ
“ไม่ล่ะ ไม่ใช้ อีกอย่างฉันไม่ได้ขอพลั่ว ฉันแค่ขอนั่งเล่นตรงนี้” เด็กชายตอบ ว่าแล้วก็ลงมือขยำทรายอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเปิดขวดน้ำที่พกมาด้วย แล้วเทน้ำลงในทราย
จากทรายแห้งๆ ร่วนๆ จึงเหนียวติดกัน ทำให้สามารถปั้นได้ น้องแก้วเห็นแล้วถึงกับตาโต เธอจึงวางพลั่วและถังพลาสติกลง และเริ่มละเลงมือในทรายเปียกๆ นั้น ทั้งคู่เล่นกันอย่างสนุกสนาน
“เธอดูนั่น! Cat น่ารักมากเลย” น้องแก้วรีบชี้ชวนให้เด็กชายหันไปมองลูกแมวน้อยที่กำลังเดินผ่านไป
“ฮะ… อะไรนะ แคต คืออะไร” เด็กชายนิ่วหน้าสงสัย
“C-A-T Cat แมวไง Teacher ที่โรงเรียนไม่ได้สอนเหรอ” น้องแก้วถาม
แต่เด็กชายกลับลุกพรวดแล้วตะโกนว่า “โหย ก็แค่พูดภาษาประกิดได้ ไม่เห็นจะฉลาดเลย ขี้อวดจัง” ก่อนจะวิ่งหายไป
เด็กชายกลับมาที่กระบะทรายพร้อมกับลูกแมวในอ้อมแขน “นี่… เธอ Cat ที่เธอชอบ อยากเล่นกับมันไหม” เด็กชายร้องเรียก
น้องแก้วเบิกตากว้าง และยิ้มแฉ่ง “อยากสิ ฉันขอลูบหัวมันหน่อย”
“แก้ว ทำไมมาเล่นกับเด็กคนนี้ ดูสิเนื้อตัวเลอะเทอะไปหมด แล้วแม่สั่งแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้เล่นกับสัตว์ ลุกเลย เราจะกลับกันแล้ว” คุณแม่รีบดึงตัวน้องแก้วกลับบ้าน
ด้วยความเป็นห่วง เมื่อกลับถึงบ้านคุณแม่จึงเตือนน้องแก้วด้วยความหวังดี “แก้ว ทำไมถึงไปเล่นกับเด็กคนนั้น เขาไม่เหมือนเรารู้ไหม ดูสิเนื้อตัวเขาสกปรกมอมแมม จับหมาจับแมวแบบนั้น จะเอาโรคมาติดหนูหรือเปล่าก็ไม่รู้ คราวหลังระวังตัวหน่อยนะลูก เขาอาจจะมาขโมยของเล่นของหนู หรือมาแกล้งหนูก็ได้ เอาเป็นว่าคราวหน้าห้ามไปเล่นกับเด็กคนนั้นอีก เข้าใจไหม”
เช้าวันเสาร์ของอาทิตย์ถัดไป คุณแม่พาน้องแก้วมาเล่นที่สนามเด็กเล่นอีกครั้ง เมื่อเด็กชายเห็นน้องแก้วก็รีบอุ้มลูกแมว แล้วเดินมารอที่กระบะทราย
“ฉันเล่นด้วยนะ” เขาเอ่ยถามทันทีที่น้องแก้วมาถึง
“ไม่ได้ แต่ถ้าเธออยากเล่นทราย ฉันจะไปเล่นอย่างอื่นแทน” น้องแก้วตอบเสียงนิ่งเรียบ
เด็กชายหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนตอบออกไปว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเอง…”
เด็ก… ไม่เคยคิดแบ่งแยกคน นอกเสียจากผู้ใหญ่จะสอนเขา
เด็ก… ไม่เคยรู้สึกแปลกแยก นอกเสียจากผู้ใหญ่จะทำให้เขารู้สึก
NO COMMENT