READING

ทักษะการแก้ปัญหา: 5 เทคนิค สอนลูกให้สู้ชีวิต แบบไม...

ทักษะการแก้ปัญหา: 5 เทคนิค สอนลูกให้สู้ชีวิต แบบไม่ต้องกลัวชีวิตสู้กลับ

ทักษะการแก้ปัญหา

คุณพ่อคุณแม่ย่อมรู้ดีว่า ปัญหา อุปสรรค และเรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่คิด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน การแก้ปัญหาจึงเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นต้องมีติดตัว ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กๆ หากได้รับการฝึกให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาได้ดี ก็จะกลายเป็นคนที่ความสามารถในการรับมือและจัดการเรื่องต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความวิตก กังวล การจัดการอารมณ์ การควบคุมตนเองได้ดีกว่าคนอื่น

ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-solving skill) คือความสามารถในการเข้าใจปัญหา และสามารถคิด วิเคราะห์ เพื่อนำวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตได้

แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเตรียมฝึกและส่งเสริมให้ลูกเป็นเด็กที่มี ทักษะการแก้ปัญหา ได้อย่างไร เรามี 5 เทคนิคดีๆ สอนลูกให้พร้อมที่จะสู้ชีวิต แบบไม่ต้องกลัวชีวิตสู้กลับ

1. สอนลูกให้รู้จักหาต้นเหตุของปัญหา

ทักษะการแก้ปัญหา

เวลาที่ลูกมีปัญหา สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ แทนที่ลูกจะร้องไห้งอแง ลูกควรค่อยๆ คิดและทำความเข้าใจว่าปัญหาคืออะไร แล้วพิจารณาต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา เช่น ปัญหาคือลูกอยากหยิบของบนชั้นวางของที่สูงเกินกว่าจะเอื้อมมือหยิบได้เอง สาเหตุก็คือของอยู่สูงและลูกตัวเตี้ยเกินกว่าที่จะเอื้อมถึงนั่นเอง

2. สอนลูกคิดวิธีแก้ปัญหา

ทักษะการแก้ปัญหา

เมื่อรู้ว่าปัญหาและสาเหตุของปัญหาคืออะไร ลองชวนลูกคิดว่าจะเราจะแก้ปัญหานี้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง เช่น ถ้าลูกอยากหยิบของที่อยู่สูง แต่ลูกสูงไม่พอ เอื้อมแล้วก็ไม่ถึง วิธีแก้ไขก็คือทำให้ตัวเองสูงขึ้น ด้วยการขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วลองหยิบอีกครั้ง

ที่สำคัญก็คือ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมสอนให้ลูกรู้ว่าวิธีแก้ปัญหา มีได้มากกว่าหนึ่งวิธีเสมอ บางครั้งวิธีที่ลูกเลือกใช้อาจไม่ได้ผล ลองคิดหาวิธีที่สอง เช่น เดินไปเรียกผู้ใหญ่มาหยิบให้ หรือสอนให้ลูกลำดับความเป็นไปได้ว่าจะเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนก่อน ที่มีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าและมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียตามมาน้อยกว่า

3. สอนลูกเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของวิธีแก้ปัญหา

ทักษะการแก้ปัญหา

เมื่อลูกคิดวิธีแก้ปัญหาได้มากกว่าหนึ่งวิธี คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักวิเคราห์และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เช่น ถ้าลูกขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วพยายามหยิบของเอง ข้อดีคือลูกอาจจะหยิบของได้ทันที แต่ก็ต้องเสี่ยงว่าจะตกจากเก้าอี้ บาดเจ็บและทำข้าวของเสียหายได้ แต่ถ้าเลือกไปบอกให้ผู้ใหญ่มาช่วยหยิบ อาจใช้เวลามากกว่า แต่ก็ปลอดภัยกับตัวเองมากกว่าเช่นกัน

4. สอนให้ลูกเลือกวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

ทักษะการแก้ปัญหา

เมื่อสอนให้ลูกพิจารณาและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาแล้ว ลูกก็ควรเลือกวิธีที่มีโอกาสทำสำเร็จมากที่สุดหรือเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์การคิดหาวิธีแก้ปัญหาของลูกยังน้อย คุณพ่อคุณแม่อาจต้องคอยให้คำแนะนำให้ลูกคิดอย่างรอบคอบ และเมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมาด้วยเสมอ

5. สอนให้ลูกนำวิธีแก้ปัญหาไปใช้จริง

ทักษะการแก้ปัญหา

เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรแล้ว ก็ถึงเวลาที่ลูกจะต้องลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และหากสุดท้ายวิธีของลูกจะใช้ไม่ได้ผล คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรตำหนิหรือซ้ำเติมที่ลูกไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ แต่ควรชื่นชมและให้กำลังใจที่ลูกมีความพยายามที่จะคิดหาทางแก้ปัญหา แล้วจะให้ลูกลองใช้วิธีอื่นต่อไป หรือค่อยยื่นมือให้ความช่วยเหลือลูกตอนนั้นก็ยังไม่สายนะคะ

อ้างอิง
verywellfamily

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST