เพิ่งผ่านพ้นวันหยุดยาวที่หลายครอบครัวใช้เป็นช่วงเวลาอันดีในการลงมือจัดการข้าวของในบ้านที่เพิ่มพูนมาตลอดทั้งปี

1. ฝึกให้ลูกรู้จักการแยกประเภทสิ่งของ

ไม่ว่าจะเป็นของเล่นหรือของใช้แต่ละชิ้นในบ้าน ย่อมต้องมีรูปทรงและประเภทการใช้งานบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกได้รู้จักการจัดเก็บของที่เป็นประเภทเดียวกันให้อยู่ด้วยกัน โดยอาจเริ่มจากแยกเป็นประเภทใหญ่ๆ เช่น ของเล่น หนังสือนิทาน ของใช้ของคุณพ่อคุณแม่ แล้วค่อยแยกตามรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ของเล่นประเภทเดียวกันหรือมีรูปทรงแบบเดียวกัน เป็นการเพิ่มทักษะทีละเล็กทีละน้อยในการจัดเก็บของให้มีระเบียบวินัย

2. สอนให้ลูกรู้ว่าของทุกชิ้นต้องมีที่เก็บ

คนเรายังจำเป็นต้องมีบ้านให้อยู่อาศัย นับประสาอะไรกับของเล่นของใช้ต่างๆ ก็ต้องมีที่อยู่ของตัวเองเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่จะได้ใช้โอกาสนี้สอนให้ลูกรู้ว่าของเล่นทุกชิ้นเมื่อนำออกมาเล่นแล้วจะต้องนำกลับไปเก็บในที่ของมันเสมอ ของใช้ต่างๆ ในบ้านก็ไม่ควรมีชิ้นไหนที่ต้องอยู่ผิดที่ผิดทาง และถ้ามันเป็นของที่ไม่สามารถหาที่เก็บได้จริงๆ อาจต้องมีการตัดสินใจว่าของชิ้นนั้นยังมีประโยชน์หรือจำเป็นต้องเก็บไว้หรือไม่

3. ฝึกให้ลูกรู้จักความสะอาดและซ่อมแซมสิ่งของ

เวลาจัดเก็บข้าวของในบ้าน เรามักจะพบว่ามีสิ่งของที่มีคราบสกปรก แตกหักหรือเสียหาย คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกเห็นคุณค่าของสิ่งของ และผลลัพธ์ของการไม่เก็บรักษาของให้ดี รวมทั้งสอนให้ลูกนำของเหล่านั้นไปเช็ดล้างทำความสะอาด รวมถึงการคัดแยกของที่สามารถซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ต่อ และของที่เสียหายจนต้องเก็บทิ้งต่อไปได้

4. สอนให้ลูกรู้จักการส่งต่อของที่ยังใช้ประโยชน์ได้ให้คนอื่น

สิ่งสำคัญอีกอย่างในการจัดเก็บข้าวของในบ้านก็คือ การเก็บของสภาพดีที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว เพื่อบริจาคหรือส่งต่อให้คนอื่น โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก ย่อมมีเสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น และข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามพัฒนาการการเติบโตของเด็ก รวมถึงของเล่นที่ลูกเล่นได้ไม่กี่ครั้งก็เบื่อ หรือมีของใหม่ที่ถูกใจกว่า

แต่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีของเล่นในปริมาณที่มากเกินไป ลูกควรเลือกเก็บของที่ลูกยังใช้ประโยชน์ได้เอาไว้ และเลือกสิ่งของที่เห็นว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นมากกว่า เพื่อหาทางส่งต่อให้กับคนที่ต้องการมันจริงๆ ต่อไป ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะเป็นการทำให้เด็กรู้จักการจัดระเบียบแล้ว ยังทำให้เขาได้รู้จักการเสียสละ จิตใจดีและการเป็นผู้ให้อีกด้วยนะคะ

และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลเก็บของในบ้านมาแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะส่งต่อของใช้ของเจ้าตัวเล็กไปที่ไหน ตอนนี้ทางไปรษณีย์ไทยได้มีโครงการ ‘ส่งสุข ส่งฟรี’ เปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ส่งต่อของใช้สำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน เครื่องกีฬา เสื้อหนาว ไปให้เด็กๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนต่างๆ ทั่วประเทศ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการจัดส่ง ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มกราคม 2563

หากสนใจโครงการ ‘ส่งสุข ส่งฟรี’ ก็สามารถติดตามรายละเอียดและรายชื่อโรงเรียนเพื่อส่งของไปให้เด็กๆ ได้ที่ http://bit.ly/2SSa2q4

อ้างอิง
goodhousekeeping
mynourishedhome