คุณพ่อคุณแม่รู้ดีว่า การ ฝึกลูกพูดภาษาที่สอง เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กในยุคปัจจุบัน
หลายครอบครัวจึงเลือกให้ลูกเรียนโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาที่นอกเหนือจากภาษาไทยตั้งแต่แรกเริ่ม แต่สำหรับครอบครัวที่ไม่ได้ให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ การฝึกภาษาที่สองให้ลูก จึงกลายเป็นความรับผิดชอบของคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญ
Martha Abbott กรรมการบริหารของ American Council on the Teaching of Foreign Languages ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการ ฝึกลูกพูดภาษาที่สอง เอาไว้ว่า การใช้ภาษาที่สองจะยิ่งยาก เมื่อลูกมีอายุมากขึ้น และการฝึกฝนภาษาใหม่จะทำได้ดีในเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึง 3 ขวบแต่ถึงอย่างนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เริ่มใช้ภาษาที่สองกับลูกตั้งแต่แรกเกิด วัยอนุบาลก็ยังไม่ช้าเกินไปที่จะให้ลูกเริ่มเรียนรู้ภาษาอื่นเพิ่มเติม เพราะเด็กวัยนี้กำลังเชี่ยวชาญการลอกเลียนแบบสิ่งที่ได้ยินและได้ฟัง วัยอนุบาลจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการฝึกฝนภาษาที่สองให้ลูก และการให้ลูกได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาที่สองมากเท่าไร ลูกก็จะซึมซับและเรียนรู้ภาษานั้นได้ดีและรวดเร็วมากเท่านั้น
และเพื่อสร้างกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ที่อาจไม่ได้เก่งภาษามาก่อน แต่อยากฝึกฝนการใช้ภาษาที่สองลูกวัยอนุบาล เรามีเทคนิคดีๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในครอบครัวของเราได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เรียนรู้ไปด้วยกันกับลูก
สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ก็คือ อย่าไปกลัวการพูดภาษาอังกฤษ หรือภาษาใหม่ที่กำลังฝึกฝน การพูดบ่อยๆ ฟังบ่อยๆ เป็นการเรียนรู้ที่ดี และสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่คุ้นชินกับภาษานั้นๆ ก็ตาม
#ฝึกภาษาที่สองก่อนสิบขวบ จากการศึกษาของ Joshua Hartshorne ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งวิทยาลัยบอสตัน พบว่า หากต้องการให้เด็กเรียนรู้และใช้ภาษาใหม่ได้ดี ควรเริ่มสอนและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวัยก่อน 10 ปี เพื่อให้เด็กสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนหลักไวยากรณ์ที่ถูกต้องนั้น สามารถเรียนรู้ได้จนถึงอายุ 18 ปี หลังจากนั้นก็จะต้องอาศัยความพยายามอย่างหนักที่จะเรียนรู้และฝึกฝนมากยิ่งขึ้นRachel (Eckenthal) Cortese นักบำบัดการพูด (speech-language therapist) ยืนยันว่า คุณพ่อคุณแม่ที่สอนภาษาที่สองโดยที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษา ก็อย่ากังวลว่าลูกจะจดจำสำเนียงที่ไม่ดีจากคุณพ่อคุณแม่ เพราะหากมีโอกาส เด็กๆ ก็จะเลือกจำสำเนียงจากครูผู้สอนหรือเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษาได้เอง
#โรงเรียนอนุบาลหลักสูตรสองภาษา นอกจากฝึกฝนกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว การให้ลูกได้มีโอกาสอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ยินได้ฟังภาษาที่สองอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับภาษานั้นๆ ได้ดี และจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การให้ลูกเรียนโรงเรียนอนุบาลที่มีมีหลักสูตรสองและสามสามภาษา โดยเฉพาะโรงเรียนที่ทำการสอนโดยคุณครูเจ้าของภาษา ก็จะทำให้ลูกเรียนรู้และสามารถใช้ทั้งสองภาษาได้ดียิ่งขึ้น
2. เน้นการฟังและพูด
#อ่านนิทานภาษาที่สองไปด้วยกัน ตามคำแนะนำของ Kristin Espinar ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ และผู้เขียนหนังสือ IELTS Writing and Speaking Skills: Get a 7+ Band Score แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการใช้หนังสือคำศัพท์ หรือนิทานสองภาษาที่เน้นการสอน ตัวอักษร ตัวเลข หรือสัตว์ต่างๆ มาอ่านให้ลูกฟัง แลัชวนให้ลูกพูดตามด้วยความสนุกสนาน
#เพลงเด็กในเวอร์ชันภาษาที่สองช่วยได้ Maria Stein-Marrison ผู้อำนวยการโรงเรียน Manitou สถาบันสองภาษาในเมืองโคลด์ สปริงค์ ประจำรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า เด็กวัยอนุบาลมักจะชอบฟังดนตรีและร้องเพลง และส่วนใหญ่จะมีความสุขเมื่อได้ฟังเพลงในภาษาอื่นๆ โดยเฉพาะเพลงที่มีคำศัพท์ง่ายๆ แต่ติดหู และมีจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน เพราะเสียงเพลงและความสนุกจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และจดจำภาษาใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
3. กิจกรรมวันภาษาที่สอง
#กิจกรรมภาษาสนุกทุกวันวันละหนึ่งชั่วโมง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ถนัดใช้ภาษาที่สองกับลูกทั้งวัน หรือทำอย่างไร ลูกก็ไม่ยอมพูดโต้ตอบเป็นภาษาที่ต้องการฝึกเสียที
ลองเปลี่ยนการใช้ภาษาที่สองให้เป็นกิจกรรมภาษา เช่น ทุกวันจะมีช่วงเวลา 1 ชั่วโมงที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องใช้ภาษาที่สองในการสนทนา เพื่อสร้างความคุ้นเคยการใช้ภาษาที่สองให้ทุกคนในครอบครัว และช่วยกระตุ้นให้ลูกกล้าสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ
#ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เด็กๆ จะสนใจการเรียนรู้เมื่อรู้สึกสนุก การฝึกลูกพูดภาษาที่สองก็เช่นกัน ที่ต้องค่อยๆ ฝึก ใช้เวลา ความสม่ำเสมอ และทำอย่างมีความสุขไปเรื่อยๆ
สิ่งสำคัญก็คือ การที่ลูกเริ่มพูดเป็นประโยค และสนุกกับการใช้ภาษาที่สองกับคุณพ่อคุณแม่ แต่หากลูกยังพูดไม่คล่องหรือไม่ค่อยใช้ภาษาที่สองพูดโต้ตอบไปจนถึงอายุ 10 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่คุณพ่อคุณแม่ควรหาโอกาสให้ลูกได้ฟังภาษานั้นมากขึ้นไปอีก
#สนับสนุนภาษาใหม่ที่ลูกเลือก เป็นไปได้ที่ลูกอาจจะไม่สนุกหรือไม่ชอบภาษาที่สองที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ ก็อย่าเพิ่งกังวล กดดัน หรือบังคับลูกมากเกินไป ลองหาภาษาอื่นๆ เป็นตัวเลือกให้ลูกทำความรู้จักควบคู่ไปกับภาษาที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ก็ได้ เพราะความสำคัญของการฝึกภาษาที่สองให้ลูกคือการทำให้ลูกมีความสุขกับการเรียนภาษาก่อนนั่นเอง
COMMENTS ARE OFF THIS POST