คุณพ่อคุณแม่น่าจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘การเล่นคืองานของเด็ก นั่นเป็นเพราะวัยเด็กคือวัยแห่งการเรียนรู้และสร้างพัฒนาการ แต่ธรรมชาติของเด็กแล้ว การเรียนรู้จะส่งผลอย่างเต็มที่ได้ต้องควบคู่ไปกับความสนุกเสมอ
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยาก ฝึกลูกเป็นนักคิด จึงต้องพยายามพัฒนากิจกรรมการเล่นให้เป็นกิจกรรมที่ทำแล้วสนุกสนานและส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง และทักษะการคิดของลูกไปในเวลาเดียวกัน
เพราะการ ฝึกลูกเป็นนักคิด หรือส่งเสริมให้ลูกมีทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) คือสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตของเด็กในยุคปัจจุบัน
Dr. Pickerill นักจิตวิทยา กล่าวว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์ในวัยเด็ก นอกจากจะช่วยเรื่องการเรียนรู้ หรือการคิดคำนวณในวิชาเรียนแล้ว ยังช่วยให้ลูกรู้จักพัฒนาความคิดวิธีการแก้ไขต่อปัญหาและอุปสรรคต่างที่ท้าทายในชีวิตได้
หากอยากให้ลูกเป็นนักคิด คุณพ่อคุณแม่ต้องหากิจกรรมที่ช่วยพัฒนาความคิดลูกได้ และต้องเป็นกิจกรรมที่สนุก น่าตื่นเต้น โดยการพาลูกทำกิจกรรมสุดท้าทายอย่างกิจกรรมแอดเวนเจอร์หรือกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ลูกได้ปล่อยพลัง และใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่
เมื่อลูกรู้สึกสนุกกับกิจกรรมที่ทำกับคุณพ่อคุณแม่ได้ ความกลัวที่จะต้องทำอะไรใหม่ๆ หรือสิ่งที่ท้าทายความสามารถ ก็จะกลายเป็นแรงจูงใจให้ลูกอยากคิดและหาวิธีเอาชนะอย่างสร้างสรรค์
เราจึงอยากพามารู้จักกับ 5 เคล็ด (ไม่) ลับในการช่วยลูกให้เป็นนักคิดผ่านกิจกรรมแอดเวนเจอร์กันค่ะ
1. กิจกรรมใกล้บ้านก็สนุกได้
กิจกรรมแอดเวนเจอร์สำหรับเด็กๆ ไม่จำเป็นต้องกิจกรรมที่ยากลำบาก แต่อาจเป็นกิจกรรมที่แสนท้าทายความสามารถในการคิดและตัดสินใจของลูก และคุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การออกไปร้านอาหารใกล้บ้านโดยให้ลูกเป็นคนเลือกร้านอาหาร และบอกทางให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งขาไปและกลับ หรือแม้กระทั่งทุ่งหญ้าใกล้บ้านก็เสริมสร้างกิจกรรมให้ลูกได้ ด้วยการชวนลูกเป็นนักสืบ สำรวจหรือตามหาใบไม้ใบหญ้าที่มีลักษณะตามที่พ่อแม่มอบหมาย กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ แต่ท้าทายความสมารถของลูกนี่แหละค่ะ ที่จะทำให้ลูกสนุกและฝึกทักษะการคิดไปในเวลาเดียวกัน
2. เวลาค่ำคืนคือเวลาแห่งความสนุก
คุณพ่อคุณแม่อาจไม่รู้ว่า หนึ่งในความท้าทายของเด็กๆ ก็คือการได้ออกไปอยู่นอกบ้านในเวลากลางคืน
ไม่เชื่อลองชวนลูกถือไฟฉายแล้วออกนอกบ้านไปทำความรู้จักกับความมืดนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพา ออกไปเดินเล่นใกล้บ้าน สังเกตแมลงหรือสัตว์ที่จะออกมาใช้ชีวิตตอนกลางคืน หรือทำให้ลูกตื่นเต้นด้วยการพาลูกค้นหาสถานที่ดูดาวชัดที่ที่สุดในบริเวณใกล้บ้าน เพียงเท่านี้ก็ช่วยฝึกให้ลูกเป็นเด็กกล้าหาญ ไม่กลัวความมืด และช่างสังเกต ได้แล้วค่ะ
3. วางแผนการผจญภัยด้วยกัน
เพิ่มความตื่นเต้นให้กับทุกกิจกรรม ด้วยการให้ลูกเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนกิจกรรมนั้นๆ เช่น ชวนลูกมานั่งคุยกันว่าสุดสัปดาห์นี้จะไปปิกนิกที่สวนสาธารณะดีไหม แล้วไปที่ไหนดี หรือลูกอยากไปที่อื่น หรือลองถามความเห็นว่าลูกอยากทำอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่พ่อกับแม่เสนอหรือไม่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้ลูก และฝึกให้ลูกกล้าคิดกล้าตัดสินใจมากขึ้นอีกด้วย
4. พาลูกรู้จักกิจกรรมที่พ่อแม่ชอบ
พาลูกรู้จักกับกิจกรรมในวัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่เคยทำมาก่อน เพื่อให้ลูกได้ทำความรู้จักกับกิจกรรม หรือการละเล่นที่ต่างจากยุคสมัยของตัวเอง และอย่าลืมเล่าประสบการณ์สนุกๆ ในช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเด็ก จะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกที่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้เรื่องราวของคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย
5. ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ไปกับลูก
และสุดท้ายก็คือ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมที่จะเปิดใจลองกิจกรรมใหม่ๆ ไปพร้อมกับลูก หากมีกิจกรรมที่คุณพ่อแม่คุณแม่ไม่เคยทำมาก่อน ให้คุณพ่อคุณแม่บอกลูกไปตามตรงได้เลยว่า ‘กิจกรรมนี้ พ่อและแม่ก็กำลังจะทำเป็นครั้งแรกไปพร้อมลูกเลยนะ’ สิ่งนี้จะทำให้ลูกกล้าตั้งคำถามหรือหาคำตอบกับกิจกรรมใหม่มากยิ่งขึ้น และลูกจะรู้สึกสบายใจที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นเพื่อนที่พร้อมจะเติบโตและเรียนรู้ไปด้วยกัน
COMMENTS ARE OFF THIS POST