ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราทุกคน โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ สถานการณ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลกเราตอนนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวจนคุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มสอนและปลูกฝังความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ ของเราตั้งแต่วันนี้
เพราะธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้กำลังถึงจุดคับขันเพราะการปล่อยปละละเลยของคนรุ่นก่อน เราจึงควรปลูกฝังให้เด็กรุ่นใหม่ที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต มีความหวงแหน และใส่ใจะสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิตบนโลกนี้ต่อไป
เรามี 7 วิธีสร้างเมล็ดพันธุ์ความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาบอกให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันส่งต่อความรักสิ่งแวดล้อมให้เด็กๆ ของพวกเรากันค่ะ
1. สอนให้ลูกรู้ว่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคืออะไร
อยากให้ลูกรู้จักรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องบอกให้ลูกรู้ว่ากำลังหมายถึงอะไร และทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญและมีผลกระทบกับชีวิตของเราทุกคน รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกนี้อย่างไรเพื่อทำให้ลูกเข้าใจถึงคุณค่าของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าถึงแม้เขาจะอยู่ในบ้านอยู่ในเมือง หรือไม่ได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติตลอดเวลา แต่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
2. บอกให้ลูกรู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลไกธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พ่อแม่ต้องบอกเพื่อให้ลูกรู้ว่าทุกการกระทำของเขาสามารถส่งผลกระทบ และทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะยกตัวอย่างเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันง่ายๆ เช่น การอาบน้ำ ต้องใช้ทรัพยากรน้ำ ไฟฟ้า ไขมันจากสบู่ที่เราใช้ทำความสะอาดจะถูกส่งต่อออกไปสู่สิ่งแวดล้อมได้อย่างไร เรื่องใกล้ตัวแบบนี้ รับรองว่าไม่ยากเกินกว่าที่เด็กๆ สามารถเข้าใจได้ และจะทำให้เขาเห็นความสำคัญของกิจวัตรประจำวันว่ามีผลกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
3. บอกกติกา DO และ DON’T เมื่อมีการพาลูกไปเที่ยวสถานที่ตามธรรมชาติ
เวลาพาเด็กๆ ออกไปเจอสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ บางครั้งเด็กอาจไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติกับสิ่งแวดล้อมที่สวยงามนั้นอย่างไร เช่น เห็นดอกไม้สวยงามและมีกลิ่นหอมก็อยากเด็ดมาดม เห็นสัตว์หน้าตาประหลาดแปลกตาก็อยากเอื้อมมื้อไปสัมผัส เห็นเปลือกหอยสวยๆ ก็อยากเก็บกลับมาที่บ้าน หรือเห็นว่าไม่มีถังขยะ จึงทิ้งขยะไว้ตามที่ต่างๆ
สิ่งเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างข้อตกลงไว้ล่วงหน้า เช่น เราจะไม่เด็ดดอกไม้เด็ดขาด ถ้าจะทิ้งขยะ ต้องมองหาถังขยะ หรือถ้าไม่มี ลูกต้องถือไว้จนกว่าจะเจอถังขยะเท่านั้น และตักเตือนทันทีที่ลูกไม่ทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้
4. เตรียมข้อมูลความรู้แล้วคอยอธิบายให้ลูกฟังระหว่างสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ
ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ความรักสิ่งแวดล้อมลงในหัวใจลูก ด้วยการพาลูกไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ ความเป็นมา ทรัพยากรที่สำคัญให้เด็กๆ ซึมซับและรู้สึกหวงแหนสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นเอาไว้
5. เริ่มจากสอนให้ลูกใส่ใจสิ่งแวดล้อมใกล้ๆ ตัวเสียก่อน
เริ่มต้นจากที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกช่วยดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน รู้จักใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและรู้คุณค่า ปิดน้ำปิดไฟถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ไม่ใช้
หมั่นชวนลูกออกมาดูสวนธรรมชาติเล็กๆ รอบบริเวณบ้าน ชวนเขาปลูกต้นไม้เป็นของตัวเอง มอบหมายหน้าที่ให้เขาดูแลต้นไม้ของเขา รดน้ำต้นไม้ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยและเฝ้าดูการเติบโตของต้นไม้ เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างลูกกับต้นไม้ จนพัฒนากลายเป็นความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
6. ชวนลูกพูดคุยสถานการณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
ชวนลูกพูดคุยถึงสถานการณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกบ้าง และลองใช้โอกาสนี้ฝึกให้ลูกคิดว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจะกระทบกับชีวิตกับเขาอย่างไร และตอนนี้ลูกสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
พอพูดคุยเรื่องเดิมซ้ำๆ ฝึกให้เขาคิดแก้ปัญหาบ่อยๆ พอลูกได้ยินอะไรแบบนี้เขาจะตระหนักและเห็นอกเห็นใจเรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยอัตโนมัติ
7. สร้างความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านนิทาน
เลือกนิทานเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสลับสับเปลี่ยนมาเล่าให้ลูกฟัง หรือพยายามแทรกเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้เพิ่มเติม เช่น แม่คิดว่าไม้ที่ลูกหมูเอามาสร้างบ้าน น่าจะเป็นไม้จากต้นสน แต่ปัจจุบันการตัดต้นไม้ในป่ามาสร้างบ้านเราไม่ทำกันแล้วนะคะ เพื่อให้ลูกรู้สึกใกล้ชิดเรื่องราวของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้สึกผูกพันกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลตัวแค่ไหนก็ตาม
COMMENTS ARE OFF THIS POST