แม้คุณพ่อคุณแม่จะยินดีและเต็มใจที่จะคอยช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาให้ลูกเสมอ แต่เมื่อลูกเติบโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ย่อมไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยลูกได้ทุกสถานการณ์ การ ฝึกลูกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญ

จากงานวิจัยด้านพฤติกรรมและการบำบัด พบว่า เด็กที่ขาดทักษะการแก้ไขปัญหา มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเครียดสะสม และนำไปสู่การเป็นเด็กเก็บกดได้ ยิ่งไปกว่านั้นการฝึกทักษะแก้ไขปัญหาให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กยังช่วยพัฒนาสุขภาพจิต ป้องกันการเกิดภาวะเครียด และทำให้ลูกเรียนรู้ได้ดีขึ้นอีกด้วย

M.O.M จึงอยากส่งต่อทริกเล็กๆ ให้คุณพ่อคุณแม่นำไป ฝึกลูกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพื่อส่งเสริมให้ลูกเติบโตไปเป็นนักแก้ปัญหาที่พร้อมรับมือทุกปัญหาที่จะเข้ามาในอนาคต

1. ส่งเสริมการเล่นเชิงสร้างสรรค์

เด็กมักจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาได้ดีจากการเล่นที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมเสริมทักษะการแก้ปัญหามาเล่นกับลูก เช่น เกมตึกถล่ม (Jenga) เกมต่อบล็อกรูปทรงเรขาคณิต หรือเกมเอ็กซ์โอ

ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างบรรยากาศการเล่นที่สนุกสนาน ไม่โฟกัสหรือคร่ำเคร่งอยู่กับการพัฒนาทักษะลูกจนเกินไป และช่วยแนะนำวิธีการแก้ปัญหาให้ลูกในช่วงแรกเริ่ม แล้วค่อยๆ ให้ลูกฝึกฝนด้วยตัวเองต่อไป เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกกดดันและเครียดกับเกมที่ยากเกินไปนัก

2. ลองขอลูกช่วยแก้ปัญหา (บ้าง)

คุณพ่อคุณแม่อาจเห็นว่า บางครั้งลูกก็ไม่กล้าบอกหรือตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยวิธีของตัวเอง นั่นเป็นเพราะลูกยังขาดความมั่นใจและกลัวว่าจะไม่ได้การยอมรับจากคุณพ่อคุณแม่

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสร้างความมั่นใจและแสดงให้ลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่เคารพในวิธีการแก้ไขปัญหาของลูก โดยเริ่มจากการให้ลูกมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเล็กๆ แล้วจึงช่วยกันออกความคิดร่วมกันในเรื่องที่สำคัญมากขึ้น

ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักเลือกปัญหาที่จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของลูก ไม่ทำให้ลูกเคร่งเครียดจนเกินไป เช่น เราจะเตรียมมื้อเย็นอย่างไรในงบ 300 บาท หรือตากผ้าอย่างไรให้เสื้อผ้าไม่ปลิวหาย เพราะการให้ลูกช่วยออกความเห็นกับโจทย์ง่ายๆ และใกล้ตัวก่อน จะช่วยสร้างความมั่นใจในการแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต

3. ปล่อยลูกให้ลองผิดลองถูก

 คุณพ่อคุณมักจะมีความคาดหวังในตัวลูก และพยายามผลักดันลูกให้ไปถึงเป้าหมาย แต่ในความคาดหวังนั้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่พยายามยื่นมือให้ความช่วยเหลือ และคอยแก้ปัญหาให้ลูก โดยไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองผิดลองถูก  เพราะไม่อยากให้ลูกต้องเสียเวลาอยู่กับความผิดพลาด

แต่การทำเช่นนั้น จะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ไม่อยากลองทำอะไรด้วยตัวเอง ขาดความมั่นใจ เกิดความรู้สึกกังวล ประหม่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาและต้องการความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่อยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่จึงต้องยอมให้ลูกได้เรียนรู้จากผิดพลาดของตัวเอง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้ลูกฝึกแก้ปัญหาด้วยตัวเองอย่างเหมาะสม

4. ใช้นิทานเป็นตัวอย่างสถานการณ์จำลองการแก้ปัญหา

นิทานสำหรับเด็กมักจะแฝงไปด้วยเรื่องราวการแก้ปัญหาที่น่าสนใจ และช่วยให้ลูกเรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ลูกไม่รู้สึกกดดันหรือรู้ตัวว่ากำลังถูกสอน

คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกนิทานที่มีภาพประกอบสวยงามและเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ลูกสนุกกับการฟังนิทานและจดจำเรื่องราวได้ดีขึ้น นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหาของลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังได้ใช้เวลาคุณภาพกับลูกอีกด้วย

อ้างอิง
verywell familly
all pro dad
Signing Time!