การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถึงแม้จะมีหลักการที่พอจะชี้นำได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี แต่ไม่ว่าจะเป็นหลักการหรือทฤษฎีอะไรก็ตาม การเป็น พ่อแม่สุดโต่ง ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่

จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงควรศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงลูกที่หลากหลาย เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการเลี้ยงดูของครอบครัวเป็นสำคัญ

เพราะความที่คุณพ่อคุณแม่รักและหวังดีกับลูก จึงจริงจังกับการเลี้ยงดูและพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ โดยลืมไปว่า การเป็น พ่อแม่สุดโต่ง ไม่ยืดหยุ่น และเข้มงวดกับการเลี้ยงลูกมากเกินไป อาจกลายเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับลูกโดยไม่รู้ตัว

เรามีวิธีการเลี้ยงลูกที่พ่อแม่ส่วนมากเข้าใจว่าเป็นเรื่องดี โดยลืมที่จะระวังว่าอะไรที่มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีกับลูกได้เหมือนกัน

1. เลือกซื้อของแพงที่สุดให้ลูกเสมอ

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เท่าที่กำลังของตัวเองจะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ โรงเรียน รวมถึงโอกาสต่างๆ ในชีวิต ดังนั้นไม่ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกจะแลกมาด้วยราคาเท่าไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมที่จะยอมจ่ายเสมอ ลูกที่เรียนรู้และเคยชินว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องเลือกของแพงที่สุดให้เขา

2. ให้รางวัลลูกเสมอ

บางครั้งการเลี้ยงลูกก็ต้องใช้ศิลปะการเจรจาและต่อรอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเชื่อฟังและทำตามคำสั่งแต่โดยดี จึงเลือกใช้วิธีเสนอของรางวัลให้  เช่น รับปากว่าจะซื้อของเล่นให้เมื่อลูกตั้งใจเรียน ข้อดีของการให้รางวัลจูงใจก็คือ ลูกมีโอกาสที่จะทำตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ก็จะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่จะเชื่อฟังเมื่อมีการเสนอของรางวัลที่ถูกใจให้เท่านั้น

ดังนั้น รางวัลที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้เพื่อตอบแทนที่ลูกทำตัวดี ก็คือการชื่นชมและทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งของเป็นรางวัลให้ลูกเสมอไปค่ะ

3. จริงจังกับเรื่องเรียนของลูก (มากเกินไป)

การเรียนเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมว่าวัยเด็กเล็ก ลูกจำเป็นต้องได้เรียนรู้ สร้างพัฒนาการ ฝึกทักษะการใช้ชีวิตจากการเล่นอย่างอิสระ

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรเข้มงวดกับการเรียนหนังสือหรือความรู้ทางวิชาการของลูกมากเกินไป แต่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะการให้ลูกได้เล่นได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย จะช่วยให้ลูกมีโอกาสค้นพบความถนัดและความชอบของตัวเองได้

4. สนับสนุนการเงินให้ลูกตลอดเวลา

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมต้องการส่งเสริมและสนับสนุนความสุขของลูกอย่างเต็มที่ ซึ่งหลายอย่างจำเป็นต้องใช้เงินซื้อหามาให้ แต่การที่คุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนและใช้จ่ายเงินเพื่อลูกอย่างไม่มีข้อแม้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลยก็ตาม อาจเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีเกี่ยวกับการใช้เงินให้กับลูกได้

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นแบบอย่างในการใช้เงินให้กับลูก สอนให้ลูกได้รู้จักคุณค่าของเงิน ด้วยวินัยการเงินของพ่อแม่เช่น เมื่อลูกร้องขอของเล่นใหม่ คุณพ่อคุณแม่อาจถามหาเหตุผล ความจำเป็น และสร้างเงื่อนไขให้ลูกลองเก็บเงินค่าขนมของตัวเอง หรือช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานบ้าน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะช่วยจ่ายส่วนหนึ่งให้ เพื่อให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน และบริหารการเงินด้วยตัวเองได้ต่อไป

อ้างอิง
investopedia
roseandrex
huffpost