5 ปัญหาผิวๆ ของเบบี๋

ทารกกับปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องคู่กัน โดยเฉพาะผิวหนังที่บอบบาง เดี๋ยวก็ขึ้นเป็นผดเม็ดเล็กๆ เดี๋ยวก็ขึ้นผื่นแดงเป็นจ้ำเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด

เพราะทารกเพิ่งคลอด ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพอากาศและความเป็นอยู่ ร่างกายทารกจึงพยายามปรับตัว และส่งผลออกมาในรูปแบบต่างๆ

แม้จะดูเป็นเรื่องน่ากังวลใจ แต่จริงๆ แล้วปัญหาผิวหนังบางชนิดที่เกิดกับทารกนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อย่างที่คุณพ่อคุณแม่กังวล เพราะเกิดแล้วหายเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องทายาหรือทำการรักษาใดๆ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกต หากลูกมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยขณะมีผื่นขึ้นผิวหนัง เช่น มีไข้ กินน้อย มีตุ่มแดงที่เหงือก ฯลฯ ถ้าเป็นอย่างนั้น จึงควรพาลูกพบแพทย์ทันที

และนี่คือ 5 ปัญหาผิวๆ ที่มักเกิดขึ้นกับเบบี๋

1. ผดทั่วไป (Milia)

babyskin_web_1

มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดขาวเหลือง มักจะขึ้นบริเวณหน้าผาก จมูก และแก้มของทารก แต่บางครั้งก็อาจขึ้นบริเวณเหงือกและกลางเพดานภายในช่องปากได้

ผด เกิดจากการตกค้างของไขมันหรือที่เรียกว่าซีบัม (sebum) และเคราติน (keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในหนังกำพร้า ผม และเล็บ ทำให้กลายเป็นตุ่มผดเม็ดเล็กๆ อาจจะขึ้นเป็นกลุ่ม หรือเม็ดเดี่ยวๆ ก็ได้ แต่จะไม่มีการอักเสบ บวมแดง หรืออาการคันร่วมด้วย

ตามปกติ ผดสามารถเกิดขึ้นกับทารกและสามารถหายเองได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องทายา แต่ต้องหมั่นรักษาความสะอาด ไม่สัมผัสหรือแคะแกะเกาให้ลูก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบระคายเคืองและติดเชื้อได้

2. ต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis)

babyskin_web_2

จู่ๆ ผิวของเจ้าตัวน้อยก็ลอกออกมาเป็นขุยๆ เหมือนรังแคของผู้ใหญ่ อาการนี้เรียก ‘ต่อมไขมันอักเสบ’ เป็นอาการที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด มักมีลักษณะเป็นผื่นแดงพร้อมสะเก็ดเหลืองปกคลุมอยู่ รวมถึงผิวหนังจะมัน และลอกเป็นขุย

ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณหนังศีรษะ ไรผม รองลงมาจะเป็นใบหน้า หู คอ และบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม

ต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis) สามารถหายเองได้ แต่ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่หากพบว่าลูกผิวหนังลอกเป็นขุยมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์

3.  ผดร้อน (miliaria)

babyskin_web_3

ผดร้อน เป็นโรคผิวหนังที่เจ้าตัวน้อยหลายบ้านต้องเผชิญ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทยกับผิวหนังของทารกที่ยังระบายเหงื่อได้ไม่ดีพอ ไม่ดีจนอุดตัน

ผดร้อนมีทั้งหมด 3 ลักษณะด้วยกัน คือ ผดตุ่มแดง ผดตุ่มใส และผดตุ่มหนอง มักขึ้นตามข้อพับแขน ขา คอ หน้า แต่ไม่ได้อันตรายใดๆ และสามารถหายเองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ผดไม่ขึ้นซ้ำอีกได้ ด้วยการให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย หลีกเลี่ยงให้ลูกไปเจออากาศร้อนจัด หรือปล่อยให้ลูกตัวแห้งเองหลังอาบน้ำ สำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ใช้ครีมหรือโลชั่นทาบริเวณผดร้อน เพราะจะทำให้หายช้าและเกิดการอักเสบได้

4. สิว (neonatal acne)

babyskin_web_4

คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจตกใจเมื่อเห็นผิวของลูกเต็มไปด้วยเม็ดขาวออกแดง กระจายเต็มตามแก้ม คาง หน้าผาก เปลือกตา คอ และศีรษะ ดูอย่างไงก็เหมือนสิวของผู้ใหญ่อย่างเราๆ แต่ ลูกยังเป็นเด็กอย่างนี้ แล้วจะมีสิวได้อย่างไร

ที่จริงแล้วทารกก็เป็นสิวได้นะคะ ทางการแพทย์สันนิษฐานว่าว่าสิวของทารกเกิดจากฮอร์โมนของแม่ที่ถูกส่งต่อมายังลูกในปริมาณมาก เลยทำให้ถูกกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น โดยมักจะขึ้นในเด็กอายุสองสัปดาห์ขึ้นไป

แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเครียดหรือกังวลไปค่ะ เพราะสิวทารกสามารถหายเองได้ในเวลาไม่นาน โดยไม่จำเป็นต้องทายาหรือครีมใดๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหนังของลูกอุดตันมากขึ้นไปอีก

5. ผื่นแดง (erythema toxicum)

babyskin_web_5

ผื่นแดงสามารถขึ้นได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 10 วัน โดยมีลักษณะเป็นแผ่นปื้นแดงๆ ขนาด 1-3 ซม. มีตุ่มใสอยู่ตรงกลางคล้ายตุ่มหนอง พบได้ทั่วบริเวณของอก หลัง หน้า ส่วนต้นของแขนขา แต่จะไม่พบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าค่ะ

ผื่นแดงเป็นโรคทางผิวหนังที่ยังคงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่สำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนที่จะไม่ยุ่งกับผื่นของลูก เพราะผื่นแดงสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา และจะเริ่มยุบหลังเป็นมาแล้ว 5 วัน เมื่อครบ 1-2 สัปดาห์ก็จะทยอยหายไปจนหมด

 

 

 

อ้างอิง
เลี้ยงลูกตามใจหมอ
สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
theasianparent
sanook
care

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

COMMENTS ARE OFF THIS POST