ผลการวิจัยออนไลน์ที่จัดทำโดย Healthdirect Australia พบว่า สิ่งที่พ่อแม่มือใหม่ประสบปัญหามากที่สุดก็คือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ และการพาเจ้าตัวเล็กอายุ 2-3 ขวบ เข้านอน เพราะเป็นช่วงวัยที่พอถึงเวลานอน ลูกก็จะไม่อยากนอน พอถึงเวลาตื่นก็จะไม่อยากตื่นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องประสบปัญหาเดิมๆ เหล่านี้ไม่ว่าจะเช้าหรือเย็น
โดยทั่วไป เด็กอายุสองปี ควรนอนหลับ อย่างน้อยวันละ 12-14 ชั่วโมง ซึ่งแปลว่า ถ้าลูกคุณตื่นนอนเจ็ดโมงเช้า ลูกก็ควรจะได้เข้านอนตั้งแต่หนึ่งทุ่ม! แต่ในความเป็นจริง มันช่างยากแสนยาก แต่ถ้าคุณสามารถจัดตารางเวลาชีวิตใหม่ ปรับเปลี่ยนเวลาเอาลูกเข้านอน เพื่อให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ ในระยะยาวมันจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อคุณและเจ้าตัวเล็กอย่างแน่นอน
วันนี้เราจึงมี 5 เทคนิคในการเอาลูกเข้านอนมาฝาก
1. ใช้น้ำมันหอมระเหย
คุณสามารถสร้างบรรยากาศก่อนนอนให้ลูกโดยการใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ มาทำให้ห้องหอม ตัวอย่างเช่น น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ จะช่วยให้ลูกรู้สึกสงบ ผ่อนคลาน และพร้อมที่จะเข้านอนมากขึ้น
2. กำหนดกิจวัตรก่อนเข้านอน
กำหนดกิจกรรมก่อนเข้านอนและทำให้เป็นระบบอย่างสม่ำเสมอ เช่น หลังกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ลูกจะได้นั่งเล่นสักพัก หลังจากนั้นไปอาบน้ำ แต่งตัว ดื่มนม แปรงฟัน อ่านนิทาน ปิดไฟ และเข้านอน
3. ทำให้สม่ำเสมอ
ทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องธรรมดาที่ในช่วงแรกเด็กจะเกิดอาการต่อต้าน แต่ถ้าคุณทำซ้ำๆ ทำด้วยความสม่ำเสมอ เด็กจะสามารถปรับตัวและเคยชินกับกิจวัตรประจำวันของตัวเองได้ในที่สุด
4. เลือกเวลานอน
เลือกเวลานอนของลูกให้เข้ากับตารางเวลาของครอบครัว ให้คุณกับลูกได้มีเวลานั่งกินข้าวเย็นและใช้เวลาร่วมกันสักนิด ก่อนที่จะพาลูกเข้านอน
5. กิจกรรมก่อนเข้านอน ช่วยกำหนดอารมณ์ได้
หนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอนคุณอาจจะหรี่ไฟในบ้านลง ปิดทีวี ปิดหน้าจอ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะผูกสัมพันธ์กับลูกด้วยการอ่านนิทาน หรือทำกิจกรรมเงียบๆด้วยกัน เพราะเด็กที่เล่นมือถือหรือดูหน้าจอก่อนนอนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในการนอน
แถมด้วยเทคนิคการตกแต่งห้องนอน ควรเลือกใช้ไฟที่ให้แสงสว่างสีแดง เหลือง หรือส้ม จะทำให้เด็กรู้สึกสงบและพร้อมต่อการเข้านอนมากกว่าแสงสีขาวหรือฟ้า ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว แทนที่จะทำให้เกิดความรู้สึกอย่างนอนหลับพักผ่อน
COMMENTS ARE OFF THIS POST