พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งรู้กันดีกว่ารากฐานชีวิตของคนเรานั้นเริ่มต้นที่การเลี้ยงดูที่มีประสิทธิภาพ กระตุ้นและส่งเสริมให้ลูกนั้นมีพัฒนาการเต็มที่ รวมถึงการอบรมเลี้ยงดูที่ถูกวิธี
เพราะการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่คือการปลูกฝังพฤติกรรมและลักษณะนิสัยที่จะติดตัวลูกไปจนโต
วันนี้ M.O.M จึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักวิธีการและลักษณะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่หนังสือ The Big Book on Parenting Solutions: 101 Answers to Your Everyday Challenges and Wildest Worries (2009) โดย ดร.มิเชล บาร์บา (Michele Barba) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงเด็ก กล่าวว่าเป็นวิธีการเลี้ยงที่ส่งผลเสียให้กับลูกมากกว่าที่คิด
ลองทำความเข้าใจแล้วเราจะได้หลบเลี่ยงพฤติกรรมการเลี้ยงลูกแบบนี้ไปด้วยกันค่ะ
1. หม้อเคี่ยวยา (Incubator ‘Hothouse’ Parenting)
แนวทางการเลี้ยงดูแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่มักจะพยายามเคี่ยวเข็ญให้ลูกนั้นเรียนรู้เร็วกว่าพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของเด็ก เช่น อยากให้ลูกอ่านหนังสือออกเร็วๆ อยากให้ลูกพูดได้เร็วๆ หรือสื่อสารและเข้าใจทุกอย่างมากกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน
ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยวิธีการเคี่ยวเข็ญนี้จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีความเครียดและกดดันกับความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ไปจนโต
2. สหายคู่หู (Buddy Parenting)
สหายคู่หู เป็นการเลี้ยงดูที่คุณพ่อคุณแม่ยอมและตามใจลูกทุกอย่าง ไม่คัดค้าน หรือห้ามลูกแม้ว่าลูกจะทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ยังคงปล่อยให้ลูกทำอยู่โดยไม่ได้สั่งสอนอบรมหรือตักเตือน เพราะกลัวว่าลูกจะไม่รักหรือไม่สนิทใจด้วย
การเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่เกรงใจผู้อื่น รวมถึงไม่มีความเคารพหรือเกรงใจคุณพ่อคุณแม่ด้วย
3. กระต่ายตื่นตูม (Paranoid Parenting)
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงและคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก กลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายจากทุกอย่างรอบตัว ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยห้ามหรือปรามลูก เพื่อปกป้องลูกจากความอันตรายรอบตัว
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยความวิตกกังวลและกลัวภัยอันตรายมากเกินไป จะให้ลูกเป็นเด็กขี้กลัว ขาดความเชื่อมั่น และไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง
4. เฮลิคอปเตอร์คอยตรวจการณ์ (Helicopter Parenting)
คุณพ่อคุณแม่ประเภทนี้จะเลี้ยงลูกด้วยการคอยสอดส่องและตรวจสอบทุกอย่างในชีวิตลูก คอยปกป้อง คัดกรอง และจัดการสิ่งที่จะเข้ามาในชีวิตลูก ดูแลลูกเหมือนไข่ในหินที่พ่อแม่จำเป็นต้องคอยปกป้องอยู่เสมอ
แม้ฟังจะดูเป็นเรื่องดีแต่การคอยสอดส่องและคัดกรองทุกอย่างในชีวิตลูกกลับสร้างผลร้ายกว่าที่คิด เพราะลูกจะกลายเป็นเด็กที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ยอมแพ้กับอุปสรรค และอาจจะกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองได้ในอนาคต
5. เครื่องประดับกาย (Accessory Parenting)
การเลี้ยงดูลักษณะเครื่องประดับกาย คือการที่คุณพ่อคุณแม่วัดผลความสำเร็จการเลี้ยงดูลูก จากผลลัพธ์หรือรางวัลต่างๆ ที่ลูกได้รับ ไม่ว่ารางวัลนั้นจะได้จากความสามารถด้านการเรียน ความเก่ง ความโดดเด่นจากคนอื่นที่มาจากความต้องการของคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก เปรียบเหมือนเป็นเครื่องประดับของพ่อแม่ที่สามารถเอาไปโอ้อวดโชว์ผู้อื่นได้
การเลี้ยงลูกลักษณะนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่และคุณค่าอยู่ที่การทำให้คุณพ่อคุณแม่พอใจและภาคภูมิใจ และกลัวว่าจะไม่ได้รับความรัก หากตัวเองทำไม่ได้ตามพ่อแม่ต้องการ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกอาจสั่นคลอนได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST