คุณแม่ทุกคนรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยที่เราจะทำจัดการทุกอย่างให้เสร็จลุล่วงไปได้ง่ายๆ เมื่อคุณต้องอยู่บ้านกับทารกเพียงสองคน ยิ่งถ้าลูกน้อยเป็นเด็กประเภทที่นอนแป๊บเดียวตื่น กว่าคุณจะกล่อมให้ลูกหลับอีกครั้งก็ยากแสนยาก ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ลูกก็ตื่นเสียแล้ว

วันนี้เราจึงมีเทคนิค 7 ข้อที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณแม่ทำหน้าที่การงานของตัวเองได้สำเร็จถึงแม้ว่าจะต้องอยู่บ้านและดูแลเบบี๋ไปด้วย

1. สร้างกิจวัตรประจำวันให้ลูก

สำหรับทารกแล้ว ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเขา เมื่อเวลาผ่านไป ลูกจึงจะเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และความคุ้นเคยนี้เองที่จะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย เพราะฉะนั้นการสร้างกิจวัตรประจำวันให้ลูกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมจึงสำคัญมาก เพราะมันทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและมีความสุข

ทารกที่มีความสุขก็มักจะนอนได้นานขึ้นและเล่นอยู่กับตัวเองได้นานขึ้น เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้คุณพอมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้บ้างแล้วล่ะ

2. ก่อนนอนแต่ละคืนให้ตั้งเป้าหมายของวันต่อไป

ก่อนนอนแต่ละคืนให้คุณวางแผนและตั้งเป้าหมายว่าพรุ่งนี้จะต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง และพอถึงเวลาที่คุณเอาลูกนอนกลางวันแล้ว คุณจะได้ลงมือทำสิ่งที่คิดไว้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลานั่งทบทวนว่าตัวเองจะต้องทำอะไรบ้าง

3. สร้างมุมของเล่นให้ลูก

การสร้างมุมของเล่นที่ปลอดภัยให้ลูกจะช่วยให้ลูกมีพื้นที่ที่สามารถเล่นอยู่กับตัวเองได้ คุณแม่ก็จะได้มีเวลาจัดการธุระของตัวเองได้เช่นกัน

4. ชวนคุยและร้องเพลง

พอคุณเริ่มจะลงมือทำงานบ้าน ลูกน้อยก็เริ่มส่งเสียงงอแงออกมา คุณอาจจะลองร้องเพลง ส่งเสียง หรือพูดคุยกับลูกไปด้วยว่าคุณกำลังทำอะไร การส่งเสียงสื่อสารกับลูกตลอดเวลา ก็พอจะช่วยซื้อเวลาทำงานให้คุณได้มากขึ้นอีกนิด

5. ใช้เป้ช่วยอุ้ม

ถ้าลูกต้องการให้อุ้ม ตอนที่คุณไม่สะดวกจริงๆ แล้วละก็ คุณก็ใส่ลูกลงในเป้ช่วยอุ้ม แม้จะอยู่ในบ้านนี่แหละ เพราะมันทำให้คุณมีมือเหลือไว้หยิบจับนู่นนี่ และลูกก็ได้รับการอุ้มอย่างที่อยากได้ไปด้วย

6. ปล่อยวางบ้าง

เวลาที่คุณกำลังง่วนกับการทำงานบ้าน แล้วอยู่ๆ เบบี๋ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา พอคุณละมือจากงานที่ทำอยู่ไปหาลูก คุณก็จะพะวักพะวงถึงงานที่คุณกำลังทำค้างไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ลองคิดว่าลูกจะเป็นเด็กทารกอย่างนี้ ก็แค่ตอนนี้เท่านั้น อีกไม่นาน ลูกก็จะโตและคุณก็จะไม่สามารถเรียกช่วงเวลานี้กลับมาได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นในบางครั้ง คุณก็แค่ต้องปล่อยวางจากงานบ้านหรือภาระหน้าที่แล้วยอมที่จะให้เวลากับสิ่งที่สำคัญกว่าในชีวิตบ้าง ก็เท่านั้น

อ้างอิง
AnotherMommyBlogger