สีเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้า ความอบอุ่นของแสงแดดยามเช้า เสียงนกร้อง แมลงตัวเล็กๆ โบยบิน ธรรมชาติคือสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลก

1. ลองบอกสีดอกไม้และต้นไม้ที่เจอดูสิ

คุณพ่อคุณแม่ลองฝึกให้ลูกเป็นเด็กช่างสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว ด้วยการชวนให้ลูกเล่นเกมมองหาต้นไม้และดอกไม้ตามถนน ข้างทาง หรือสถานที่อื่นๆ แล้วให้ลูกจดจำสีหรือลักษณะของดอกไม้และต้นไม้ที่เห็นมาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง และช่วยกันหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกรู้สึกสนุกกับการสังเกตและจดจำลักษณะของต้นไม้และดอกไม้มากขึ้น

2. มาสังเกตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยกันดีกว่า

นอกจากดอกไม้และต้นไม้แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้วิธีเดียวกัน ในการชวนให้ลูกมองหาหรือสังเกตการมีอยู่ของสัตว์หรือแมลงตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ โดยอาจให้ลูกจำลักษณะมาวาดเป็นภาพเพื่ออธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ฟังว่า วันนี้ไปเจอตัวอะไรมาบ้าง จะช่วยฝึกให้ลูกสังเกตและเห็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในธรรมชาติมากขึ้น

3. ไปตามหาใบไม้แบบต่างๆ กัน

ใบไม้ที่ร่วงหล่นตามพื้น เป็นอุปกรณ์ตามธรรมชาติที่ลูกสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น ลองให้ลูกเล่นเกมตามหาใบไม้ที่ร่วงอยู่บนพื้นที่มีลักษณะแตกต่างกัน หรือมีสีแตกต่างกันให้ได้มากที่สุด

4. วาดรูปธรรมชาติจากที่เห็น

สำหรับเด็กๆ ที่ชอบการวาดรูประบายสี คุณพ่อคุณแม่อาจหาเวลาพาลูกออกไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะ และเตรียมอุปกรณ์การวาดรูปติดตัวไปให้ลูก และลองให้ลูกมองหาวิวหรือสิ่งที่ลูกเห็นแล้วอยากถ่ายทอดออกมาเป็นรูปวาด เพราะการวาดรูปนอกจากจะช่วยฝึกสมาธิให้ลูกแล้ว การวาดรูปจากสิ่งที่เห็นจะช่วยเพิ่มทักษะการสังเกตและทักษะการวาดรูปของลูกให้ดีขึ้น

5. ใครเป็นคนทำเสียงนั้น?!

เวลาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ลองให้ลูกลดเสียงพูดคุย อยู่กับความเงียบและตั้งใจฟังเสียงจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนกร้อง เสียงแมลง เสียงน้ำ หรือเสียงลม แล้วลองช่วยกันทายว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงอะไร และมีใครเป็นคนทำเสียงนั้น

6. ทำสวนเล็กๆ

พื้นที่เล็กๆ ในบ้านก็สามารถชวนลูกทำกิจกรรมที่ใกล้ชิดธรรมชาติได้ คุณพ่อคุณแม่อาจลองให้ลูกได้ลงมือขุดดิน ใส่เมล็ด เพื่อปลูกต้นไม้ด้วยตัวเอง นอกจากจะทำให้ลูกได้เรียนรู้การดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้แล้ว ยังช่วยฝึกความรับผิดชอบให้ลูกได้อีกด้วย

อ้างอิง
brighthorizons
familyeducation
childmind
tinybeans