การอุปการะเด็ก เป็นแนวทางการช่วยเหลือและให้โอกาสเด็กด้อยโอกาส ยากจน ครอบครัวแตกแยก หรือพ่อแม่เสียชีวิต ให้มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน การ ขออุปการะเด็ก มีตั้งแต่การใช้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่เด็กต้องใช้ในการเติบโต เช่น ค่าเล่าเรียนและอุปกรณ์เพื่อการศึกษา ผ่านทางมูลนิธิ หรือสื่อกลางที่รับช่วยเหลือ ไปจนถึงการติดต่อ ขอรับอุปการะเด็ก มาเป็นบุตรบุญธรรม
ช่วงที่ผ่านมา เริ่มเห็นบรรดาเพจดังออกมาโพสต์เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นภายในกรุ๊ปเฟซบุ๊กที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อตามหาเด็กมาอุปการะ และหาคนรับอุปการะเด็ก อย่างเปิดเผยและโจ่งแจ้ง เช่น
ตามหาเด็กเพศหญิง มีสินน้ำใจให้ พร้อมดูแลส่งเรียนจนจบ
ตามหาคนอุปการะเด็ก เพิ่งคลอดวันนี้ ทักมาได้เลย
เมื่อลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่ามีกลุ่มลักษณะเดียวกันนี้จำนวนไม่น้อย (ปัจจุบันปิดกรุ๊ปไปแล้ว) จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำเช่นนี้ ถือว่าเข้าค่ายเป็นการค้ามนุษย์หรือไม่ และในความเป็นจริงเราสามารถขออุปการะเด็กหรือประกาศหาคนมารับเลี้ยงดูเด็กด้วยวิธีเช่นนี้ได้หรือไม่?
1. ขอรับอุปการะเด็ก ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียผิดกฎหมายทุกกรณี
การขออุปการะเด็กโดยไม่ผ่านขั้นตอนทางกฎหมาย อาจเข้าข่ายความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก มาตรา 26 (4) ห้ามไม่ให้ผู้ใดโฆษณาและเผยแพร่ด้วยประการใด เพื่อรับเด็กหรือยกเด็กให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติของเด็ก หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 อีกด้วย
2. ถ้าต้องการอุปการะเด็กอย่างถูกกฎหมาย ควรทำอย่างไร
หากต้องการอุปการะเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถปรึกษาและขอรับคำเเนะนำได้ที่
• หากมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องได้ที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมกิจการเด็กเเละเยาวชน
• หากมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตอื่นๆ สามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 76 จังหวัด
• บ้านพักเด็กและครอบครัว 77 แห่งทั่วประเทศ
• โทรสายด่วน 1300 ศูนย์เร่งรัด จัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
3. พ่อแม่ที่ไม่สามารถดูแลลูกเองได้ จะสามารถขอความช่วยเหลืออย่างไร
ในส่วนของคุณพ่อคุณแม่ที่ติดปัญหาและไม่สามารถดูแลหรือเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองได้ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือและขอคำปรึกษาได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวประจำจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือและให้คำปรึกษา หรือส่งต่อไปสถานรองรับต่างๆ ตามความเหมาะสมของเด็กและเยาวชนในแต่ละช่วงวัย
COMMENTS ARE OFF THIS POST