ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้พัฒนาจนสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราอย่างกลมกลืนมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เพียงแค่การตอบคำถามและให้ข้อมูลได้อย่างแม่นยำเท่านั้น แต่สำหรับวงการพ่อแม่ AI ยังสามารถเป็น AI Nanny ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูแลลูก โดยสามารถติดตามพัฒนาการ สร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้ สร้างปฏิสัมพันธ์ ดูแลความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ และให้คำแนะนำในการเลี้ยงลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทหลายแห่งเริ่มพัฒนา AI เพื่อทำหน้าที่ AI Nanny คอยช่วยเหลือพ่อแม่โดยเฉพาะ เช่น

• Muse แอปฯ ที่ใช้ machine learning และ big data เพื่อช่วยพ่อแม่เลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีแรงจูงใจ และมีความฉลาดทางอารมณ์

• Chatterbaby แอปฯ AI ที่สามารถวิเคราะห์เสียงร้องของเด็กเพื่อบอกได้ว่าเด็กกำลังหิว กำลังเจ็บ หรือแค่หงุดหงิด

• Snoo เปลนอนสุดไฮเทคที่ใช้ AI ช่วยกล่อมลูกให้หลับ ช่วยให้พ่อแม่ได้พักผ่อน

• Nanit พี่เลี้ยง AI ที่วิเคราะห์รูปแบบการนอนของเด็กเพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการนอนไม่หลับ

เราจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ลองมาทำความรู้จักพี่เลี้ยงในรูปแบบ AI และ 5 ข้อดีที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจถึงศักยภาพของ AI ที่จะช่วยให้การเลี้ยงลูกในยุคดิจิทัลง่ายดายมากยิ่งขึ้น

1. เป็นผู้ช่วยส่วนตัวติดตามพัฒนาการลูก

พี่เลี้ยง AI สามารถติดตามและประเมินพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้ เช่น พัฒนาการทางร่างกาย ภาษา สังคม และอารมณ์ โดยใช้ข้อมูลจากแบบทดสอบ กิจกรรม และการสังเกตพฤติกรรมของลูก หรือแม้แต่แนะนำกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับช่วงวัยและความสนใจของลูก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ง่ายดายและรวดเร็ว

2. เป็นครูผู้ช่วยอัจฉริยะ

พี่เลี้ยง AI สามารถสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้ที่สนุกและมีประสิทธิภาพสำหรับลูกน้อย เช่น นิทาน เกม และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อปรับแต่งเนื้อหาและรูปแบบให้เหมาะสมกับความสนใจและระดับความสามารถของลูก ซึ่งจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ

3. เป็นนักจัดการเวลาที่ดี

การเลี้ยงลูกในยุคดิจิทัลนั้นเต็มไปด้วยภารกิจมากมายที่คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการในแต่ละวัน เช่น การตั้งเวลาให้นมลูก การนอนหลับ หรือการทำกิจกรรมร่วมกับลูก พี่เลี้ยง AI สามารถช่วยจัดระเบียบกิจกรรมต่างๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดความกังวลให้คุณแม่มือใหม่ได้

4. เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยบนโลกออนไลน์

พี่เลี้ยง AI สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลความปลอดภัยของลูกบนโลกออนไลน์ โดยการกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และแจ้งเตือนคุณพ่อคุณแม่เมื่อพบว่าลูกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามออนไลน์ต่างๆ เช่น การบูลลี่ หรือหลอกลวงได้

5. เป็นนักโภชนาการเด็กคู่ใจ

เรื่องอาหารการกินของลูกก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ AI สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้ เพราะเราสามารถให้ AI ช่วยคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมกับวัยของลูก เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและการเจริญเติบโตที่ดีตามเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังให้ช่วยสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่หลากหลาย ช่วยลดความจำเจในมื้ออาหารของลูกได้อีกด้วย

อ่านบทความ: AI Storytelling : 5 ข้อดี เมื่อให้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยสร้างนิทานก่อน

อ้างอิง
Forbes
AItimejournal