การมีลูกเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ทำให้ชีวิตหลังการมีลูกของคู่สามีภรรยาไม่เหมือนเดิม เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องทุ่มเทเวลาไปที่ลูก และโฟกัสที่ลูกก่อนเสมอ
โดยเฉพาะคุณแม่ การเลี้ยงลูกเป็นภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง ที่ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ รวมถึงความช่วยเหลือและการให้ความสนับสนุนเบื้องหลังจากคุณพ่อ แต่หากคุณพ่อคุณแม่เคยฟังพอดแคสต์ เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง ความสัมพันธ์ และการเลี้ยงลูกจากมุมมองของคุณพ่อผู้มีประสบการณ์ จะเห็นได้ว่าคุณแม่ไม่ได้ต้องการแค่ พ่อที่ดี ให้กับลูกเพียงอย่างเดียว แต่คุณแม่ยังต้องการสามีที่ไม่บกพร่องในการดูแลและใส่ใจภรรยา หรือ All Pro Dad อีกด้วย เพราะสามีและคุณพ่อที่แย่ ก็จะส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของคุณแม่ และพฤติกรรมของลูกต่อไปได้
ดังนั้น นอกจากการเป็น พ่อที่ดี แล้ว All Pro Dad ยังช่วยให้บรรยากาศในครอบครัวเต็มไปด้วยความสุข ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบ่มเพาะทัศนคติ บุคลิกภาพ และการแสดงออกของลูกในอนาคต
ดังนั้น หากคุณพ่อมีกลยุทธ์เอาใจคุณภรรยา รู้วิธีเข้าหาลูก รวมถึงรู้จักตัวเองมากพอ การเป็น All Pro Dad หรือ พ่อที่ดีและสามีที่ยอดเยี่ยม ย่อมไม่ยากเกินไปแน่นอนค่ะ
1. หาเวลาทำ One-on-one Time กับลูกและคุณภรรยา
จริงอยู่ที่การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันพ่อ แม่ ลูก จะช่วยสร้างบรรยากาศในครอบครัวให้อบอุ่นมากขึ้น แต่คุณพ่อควรหาเวลาอยู่กับคุณแม่สองคน เพื่อเปิดใจพูดคุยเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ ปรับความเข้าใจ ให้กำลังใจและหยอดโมเมนต์หวานๆ ให้คุณแม่ชุ่มชื่นหัวใจ
และเช่นเดียวกัน แม้เจ้าตัวเล็กจะยังพูดสื่อสารอะไรไม่ได้มาก แต่การที่คุณพ่อได้ใช้เวลาอยู่กับลูกสองต่อสอง ดูและ และเล่นกันเองสองคน จะทำให้คุณพ่อรู้จักและเข้าใจตัวตนของลูกมากขึ้น และหากคุณแม่ต้องการพักเหนื่อยหรือมีเวลาให้ตัวเอง ก็จะวางใจที่จะการฝากลูกไว้กับคุณพ่อ ส่วนคุณพ่อก็จะได้ช่วยเลี้ยงลูกได้เป็นอย่างดี
2. อดทนกว่าเดิม 10 เท่า
ช่วงแรกของการเลี้ยงลูกเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้พลังงานและความอดทนสูงมาก ยิ่งคุณพ่อ นอกจากรับมือกับลูกแล้ว ยังต้องเผชิญกับคุณแม่ที่อารมณ์แปรปรวนจากความเครียด เหนื่อยล้า และผลข้างเคียงของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง สถานการณ์เหล่านี้ทำให้คุณพ่อยิ่งต้องอดทนขึ้นอีกหลายเท่าตัว
คุณพ่อจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังคลอด และศึกษาคู่มือการเลี้ยงลูกเบื้องต้นไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะความเข้าใจ เห็นใจ และความรักของคุณพ่อนี่แหละ ที่จะช่วยขยายขีดความอดทนของคุณพ่อให้พร้อมรับสถานการณ์ยากๆ ที่เกิดขึ้นได้
3. ปล่อยให้ร่างกายและจิตใจได้พักบ้าง
หนักขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกและครอบครัว จนร่างกายเหนื่อยล้าสะสม เกิดความเครียด และนำไปสู่การทะเลาะกับคุณภรรยาได้
คุณพ่อจึงควรแบ่งเวลาให้ตัวเองได้ผ่อนคลายความเครียด ด้วยกิจกรรมที่ชอบ พูดคุยกับเพื่อนๆ หรือหาเวลาสั้นๆ นอนเล่นอยู่บ้าน ให้ร่างกายและจิตใจได้พัก เมื่อความเครียดและความกดดันน้อยลง เมื่ออารมณ์และสุขภาพจิตดีขึ้น โอกาสที่จะมีปากเสียงกับคุณภรรยาก็จะน้อยลงไปด้วยเช่นกันค่ะ
4. ทุกคนในบ้านสำคัญเท่ากันหมด
คุณพ่อคุณแม่มักจะยึดความต้องการลูกเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดเลยค่ะ แต่บางครั้งการสลัดความชอบของตัวเองทิ้งไปหมด อาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะหมดไฟในการเลี้ยงลูก (Parental Burnout) และทำให้ลูกกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจได้
จึงแนะนำให้คุณพ่อใช้หลักการเสมอภาค ทุกคนในบ้านมีสิทธิ์ที่จะเลือกร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว หรือกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แล้วใช้การโหวตเลือกเสียงข้างมาก หรือจะสลับกันเป็รครั้งคราวก็ได้ เช่น เลือกร้านอาหารที่ลูกอยากกิน เลือกกิจกรรมที่คุณพ่ออยากทำ หรือเลือกไปเที่ยวที่คุณแม่อยากไป
5. ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ
คุณพ่อควรจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกัน อาจจะเป็นการเล่นบอร์ดเกม ช่วยกันทำขนม หรือปลูกต้นไม้ด้วยกัน ช่วงเวลาคุณภาพนี้จะช่วยให้ทุกคนในบ้านสนิทสนมกันมากขึ้น ปัญหาลูกสาวหวงพ่อ ลูกชายหวงแม่ก็จะไม่เกิดขึ้น
คุณพ่ออย่าลืมพูดจาหวานๆ กับคุณแม่ เพื่อเติมพลังใจให้กัน และยังทำให้ลูกได้เห็นมุมน่ารักๆ ของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อโตขึ้นลูกจะรู้จักวางตัวกับเพศตรงข้ามได้ดีขึ้นด้วย
COMMENTS ARE OFF THIS POST