ลูกหลับยาก หนึ่งในปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญ เพราะบ่อยครั้งที่การนั่งกล่อมนอนกล่อม เพื่อส่งลูกเข้านอนก็ใช้ไม่ได้ผลเพราะลูกงอแง ติดเล่น หรือพยายามเบี่ยงเบนความสนใจคุณพ่อคุณแม่ไปทางอื่น เพราะไม่อยากเข้านอน
ลูกหลับยาก เกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งเเต่พฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน เช่น เด็กบางคนชอบตื่นเช้า บางคนชอบนอนกลางวันและตื่นตอนกลางคืน บางคนนอนหลับครั้งละ 1-2 ชั่วโมง แต่นอนหลับได้หลายครั้งต่อวัน เด็กบางคนติดเล่น หรือแม้แต่เด็กที่ไม่ยอมเข้านอนเพราะอยากใช้เวลาเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ให้มากที่สุด
นอกจากนั้นยังมีสาเหตุที่เกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก เช่น อุณหภูมิในห้องนอนไม่เหมาะสม มีแสงรบกวน เสื้อผ้าระคายเคืองผิว มีเสียงไม่พึงประสงค์รบกวน หรืออาการเจ็บป่วยไม่สบาย
ดังนั้น การเข้าใจพฤติกรรมและสาเหตุที่ทำให้ลูกนอนไม่หลับ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาลูกหลับยากได้
ผู้เชี่ยวชาญและสถาบัน Sleep Foundation กล่าวว่า แม้การพาลูกเข้านอนจะทำได้ยาก แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามเพื่อให้ลูกได้นอนหลับเพียงพอ เพราะการนอนหลับมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ตั้งแต่พัฒนาการด้านสติปัญญา พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านการเรียนรู้ ไปจนถึงพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ การนอนหลับจึงจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กเป็นอย่างมาก
เราจึงอยากจับมือพาคุณพ่อคุณแม่ผ่านอุปสรรคแห่งการนอนของลูกด้วยการมาเรียนรู้ 5 เคล็ดลับที่ช่วยให้ลูกหลับง่ายขึ้นไปด้วยกันค่ะ
1. สร้างกิจวัตรการนอนให้ติดเป็นนิสัย
คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งเวลาตื่นนอนและเข้านอนของลูกให้ตรงเวลาทุกวัน ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกรู้เวลาและรู้ตัวว่าควรเข้านอนตอนไหน จนคุ้นเคยเป็นนิสัย และคุณพ่อคุณแม่จะต้องไม่ใจอ่อนหากลูกอิดออดหรือต่อรองเพื่อขอยืดเวลาการเข้านอนออกไป เพราะจะทำให้ลูกยิ่งพยายามหาวิธีมาปรับเปลี่ยนเวลาตื่นและเข้านอนของตัวเองออกไปเรื่อยๆ
2. การกล่อมให้ผ่อนคลาย
การนอนจะง่ายขึ้นเมื่อลูกได้อยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย ดังนั้นการทำให้ลูกรู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ให้ลูกกอดหมอน หรือตุ๊กตาตัวโปรด พร้อมกับฟังคุณพ่อคุณแม่เล่านิทานหรือเปิดเพลงคลอเบาๆ จะช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ การกอดและหอมจากคุณพ่อคุณแม่ก่อนเข้านอน ยังช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและหลับไปด้วยความอบอุ่นใจได้อีกด้วย
3. ควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
อุณหภูมิห้องควรอยู่ในระดับพอดี ไม่ร้อนไปไม่หนาวจนเกินไป ไม่ให้ลูกดูโทรทัศน์หรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตก่อนนอน
นอกจากนั้นควรทำห้องนอนให้เงียบสงบ มืด และไม่มีแสงสว่างรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือแสงไฟจากนอกห้องมากเกินไป
4. ใส่ใจสุขอนามัยของลูกก่อนเข้านอน
คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกใส่ชุดนอนที่สบายตัว ไม่รัดหรืออึดอัดเกินไป และไม่ระคายเคืองต่อผิวลูก ที่สำคัญต้องไม่ให้ลูกดื่มนมอิ่มจนเกินไปก่อนนอน เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเวลานอนได้
5. ทำให้ลูกรู้จักกลางวัน-กลางคืน
เด็กเล็กอาจไม่รู้ว่ากลางคืนเป็นเวลาที่ทุกคนต้องนอนหลับพักผ่อน คุณพ่อคุณแม่จึงควรหัดให้ลูกรู้จักและเข้าใจกิจวัตรที่ควรทำในเวลากลางวันและกลางคืน ทำได้ด้วยการพาลูกออกไปทำกิจกรรม ออกไปวิ่งเล่น และออกไปเจอแสงแดดในตอนกลางวัน เมื่อถึงเวลากลางคืนจึงค่อยสร้างบรรยากาศให้สงบผ่อนคลายและเอื้อต่อการเข้านอนต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST