หลังจากปิดโรงเรียนและเรียนผ่านระบบออนไลน์กันมานาน ก็ถึงเวลาแล้วที่เด็กๆ หลายคนจะได้กลับไปเจอเพื่อนๆ และคุณครูที่โรงเรียนกันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมาแต่ถึงแม้สถานการณ์ดูเหมือนจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็นจำนวนมาก และเสี่ยงต่อการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นการป้องกันและระวังตัวอย่างเคร่งครัด จึงเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตใน โรงเรียนยุคโควิด-19 เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรย้ำให้ลูกเข้าใจและทำตามเสมอ มีอะไรบ้าง เราลองรวบรวมมาฝากค่ะ
1. ฝึกลูกเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย

การเว้นระยะห่าง หรือ Social distancing ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดการแพร่กระจายและความเสี่ยงในการติดเชื้อลดลง
แต่สำหรับเด็กๆ การจะต้องคอยเว้นระยะห่างกับเพื่อนๆ ตลอดเวลาคงไม่ใช่เรื่องง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยย้ำเตือนให้ลูกเข้าใจและพยายามเว้นระยะห่างกับเพื่อนและคุณครูมากขึ้น ด้วยการกำหนดพฤติกรรมที่ลูกควรหลีกเลี่ยง เช่น ให้งดการโอบกอด หรือพูดคุยในระยะประชิด ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวของคนอื่น
2. สวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่ควรเน้นย้ำให้ลูกสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี พร้อมเตรียมหน้ากากอนามัยสำรองให้ลูกไปโรงเรียนด้วยเสมอ และไม่ลืมเตรียมซองหรือกล่องพลาสติกที่สามารถใช้เก็บหน้ากากอนามัยในเวลาที่จำเป็นต้องถอดทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น กินข้าว หรือล้างหน้า
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกฝึกและใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องอย่างเหมาะสมด้วย เช่น จะต้องล้างมือก่อนและหลังจับหน้ากากอนามัยเสมอ พยายามไม่สัมผัสกับด้านหน้าของหน้ากาก และไม่ใช้หน้ากากอนามัยร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด
3. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่ควรเน้นย้ำให้ลูกล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนและหลังหยิบจับ หรือหลัง ไอ จาม อย่างน้อย 20 วินาที หรือให้ลูกพกเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือทดแทนได้ และเน้นย้ำไม่ให้ลูกใช้มือจับตา จมูก ปาก ทันทีหลังล้างมือเพราะอาจทำให้แสบ ขม และระคายเคืองได้
4. สอนให้ลูกทำความสะอาดสิ่งของและจุดสัมผัสต่างๆ

ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่โรงเรียนก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกรู้จักทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของตัวเอง รวมถึงจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู ก็อกน้ำ โทรศัพท์ เครื่องเขียน โต๊ะ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
5. หยุดอยู่บ้าน เมื่อรู้สึกมีไข้ไม่สบาย

ไม่ว่าจะเป็นการป่วยเล็กน้อย หรืออาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหมือนไข้หวัดทั่วไปก็ควรให้ลูกหยุดอยู่บ้านเพื่อสังเกตอาการทันที
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หรือเชื้อไข้หวัดอื่นๆ การให้ลูกหยุดพักจนหายดีก่อนจึงเป็นความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและเห็นแก่ความปลอดภัยของทุกคนมากที่สุด
6. เฝ้าดูสุขภาพจิตใจร่วมด้วย

การกลับไปเรียนที่ โรงเรียนยุคโควิด-19 ระบาด อาจนำมาซึ่งความยุ่งยากและวุ่นวายมากกว่าสถานการณ์ปกติ จึงไม่แปลกหากเด็กๆ จะรู้สึกเครียด วิตกกังวล และอาจมีภาวะซึมเศร้าที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดตลอดเวลา
คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตสภาพจิตใจของลูกอยู่เสมอ ด้วยการชวนลูกพูดคุยและเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าระบายว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอะไร ไปโรงเรียนมีความสุขดีหรือไม่ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาได้ทันนะคะ
อ้างอิง
COMMENTS ARE OFF THIS POST