ทุกครั้งที่มีข่าวหรือเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ก็ทำให้เรารู้สึกหดหู่และเจ็บปวดหัวใจอยู่เสมอ

จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัส ที่พาคุณครูและนักเรียนจากจังหวัดอุทัยธานีเต็มคันรถขณะเดินทางมาทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ จนทำให้เกิดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ มีผู้ปกครองและคนในสังคมบางส่วนให้ความเห็นว่าควร ยกเลิกทัศนศึกษา รวมถึงกิจกรรมที่มีความเสี่ยง และเหตุการณ์ที่เกินกว่าครูจะสามารถปกป้องดูแลเด็กๆ ได้

ในขณะที่บางส่วนก็มองว่าการยกเลิกกิจกรรมทัศนศึกษา ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะเด็กๆ ควรได้ออกเดินทางไปเรียนรู้นอกสถานที่ และไม่ปิดกั้นการทำกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะต่างๆ เพียงแต่ ต้องการให้โรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองเด็กๆ อย่างเข้มงวดมากขึ้น

เหตุการณ์น่าเศร้าครั้งนี้นับเป็นบทเรียนที่สำคัญมากสำหรับสังคมและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับมาทบทวนว่า หากโรงเรียนต้องการมีกิจกรรมหรือพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษา สิ่งที่ควรคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายที่จะนำไปสู่ความสูญเสียเช่นที่ผ่านมา

1. ไม่ควรพาเด็กๆ เดินทางไกลเกินไป

การพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษานับเป็นหนึ่งใจกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ ที่จะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตนอกห้องเรียน แต่เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนควรพิจารณาช่วงวัย ความจำเป็น เช่น เด็กเล็กมีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ หรือไม่ และเลือกสถานที่เดินทางง่าย ไม่ไกลเกินไป เพื่อลดเวลาการเดินทาง และลดความเสี่ยงจากการเดินทางลงได้

2. ใช้บริการรถโดยสารที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

ยานพาหนะคือปัจจัยกำหนดความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดในการเดินทาง ดังนั้น โรงเรียนควรเลือกและตรวจสอบบริการรถโดยสารให้แน่ใจว่า เป็นผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เช่น มีใบอนุญาตถูกต้อง มีประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ มีคนขับรถที่มีประสบการณ์

และที่สำคัญคือรถและอุปกรณ์ต่างๆ ของรถควรได้รับการตรวจเช็กความพร้อม และมีแผนรับมือหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น ค้อนทุบกระจกรถ ประตูทางออกฉุกเฉิน และถังดับเพลิง

3. เตรียมแผนฉุกเฉินไว้เสมอ

กิจกรรมที่คุณครูต้องพาเด็กไปนอกสถานที่และต้องดูแลเด็กเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการสำรวจสถานที่ การเดินทาง และเตรียมแผนเพื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า เช่น ครูต้องรู้ว่าสถานที่ที่ไปนั้นมีทางออกและทางออกฉุกเฉินบริเวณไหน บนยานพาหนะที่โดยสาร มีอุปกรณ์ช่วยเหลือเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินหรือไม่ ใช้งานอย่างไร รวมถึงศึกษาวิธีการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

4. มีมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเพียงพอ

สุดท้าย หากพิจารณาว่าโรงเรียนไม่สามารถจัดเตรียมความพร้อม หรือขาดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับเด็กๆ แม้เพียงข้อเดียว ย่อมหมายความว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โรงเรียนอาจไม่สามารถรับรองและดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนได้ ดังนั้น การยกเลิกกิจกรรมนั้นๆ ไปก่อน จนกว่าจะจัดการเตรียมความพร้อมได้อย่างเต็มที่ ก็น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด

สุดท้ายนี้ M.O.M ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อแม่และคนในสังคมหัวใจแตกสลาย และขอเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองรวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน สามารถผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปให้ได้นะคะ

อ้างอิง
Matichon
thairath