ช่วงวัย 12-20 เดือนของลูก หลังจากเริ่มเรียนรู้การพูด ออกเสียง และเริ่มแสดงความต้องการของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้ นอกจากนั้นลูกยังเริ่มเรียนรู้ที่จะพูดว่า ‘ไม่’ เพื่อปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการเสมอ
แต่ไม่ว่าลูกจะเคยผ่านช่วงเวลาที่ชอบพูดว่า ไม่, ไม่เอา, ไม่ชอบ, ไม่กิน มากแค่ไหน เมื่อโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะกังวลใจเมื่อเจอปัญหา ลูกปฏิเสธไม่เป็น เพราะกลัวว่าจะถูกโกรธ ไม่กล้าพูด และอยากเป็นที่รักของทุกคน จนกลายเป็นสร้างความลำบากและเดือดร้อนให้ตัวเองได้ ดังนั้น นอกจากการสอนให้ลูกมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมให้ลูกรู้จักปฏิเสธสิ่งที่ฝืนใจ ไม่เหมาะสม หรือเกินความสามารถของตัวเองได้
1. ใช้คำว่า ‘ไม่’ ให้เหมาะสม

ถึงแม้จะต้องการให้ลูกเรียนรู้วิธีปฏิเสธอย่างเหมาะสม แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องพยายามใช้คำว่า ‘ไม่’ กับลูกให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่าถูกห้าม ถูกขัดขวาง หรือปฏิเสธตลอดเวลา
นอกจากนั้นลูกยังเรียนรู้ว่า การปฏิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการ นั้นทำได้หลายวิธี และลูกสามารถไม่ทำร้ายจิตใจผู้ฟังได้ เช่น ปฏิเสธและอธิบายเหตุผล หรือข้อเสียที่จะตามมา รวมถึงการเสนอทางเลือกอื่นเป็นการทดแทน
2. ฝึกให้ลูกเรียนรู้เหตุผล

คุณพ่อคุณแม่ย่อมมีเหตุผลที่จะห้ามหรือปฏิเสธไม่ให้ลูกทำอะไรบางอย่าง แต่บางครั้งก็หลงลืมหรือมองข้ามที่จะอธิบายเหตุผลให้ลูกเข้าใจ
แต่ความจริงแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่พยายามบอกเหตุผลของการห้ามหรือปฏิเสธให้ลูกเข้าใจเมื่อลูกเติบโตขึ้น ลูกก็จะเรียนรู้การปฏิเสธคนอื่นอย่างมีเหตุผลเช่นกัน
3. สอนสัญลักษณ์หรือท่าทางของการปฏิเสธ

บางครั้งการปฏิเสธไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยคำพูดเสมอไป คุณพ่อคุณแม่ลองบอกให้ลูกเรียนรู้ที่จะใช้ท่าทางและภาษากาย เช่น ขมวดคิ้ว สบตา ส่ายหน้า หรือยกมือขึ้นมาด้านหน้าเล็กน้อย
4. รู้จักต่อรองและเบี่ยงความสนใจ

อีกเทคนิคการปฏิเสธไม่ให้อีกฝ่ายผิดหวังหรือเสียใจ คือคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักการต่อรองหรือเบี่ยงเบนความสนใจ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่น เมื่อลูกอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ แทนที่จะปฏิเสธว่า ‘แม่ไม่ซื้อให้’ ลองเปลี่ยนเป็นการต่อรองให้ลูกเก็บเงินได้ครึ่งหนึ่งก่อน แล้วแม่จะช่วยจ่ายอีกครึ่ง หรือลองชวนลูกไปทำกิจกรรมอื่นเพื่อใช้เวลาทบทวนความต้องการของตัวเองอีกครั้ง
5. สอนให้เข้าใจความหมายของคำว่า ‘ไม่’

สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักและเข้าใจการปฏิเสธ ก็คือการสอนให้ลูกรู้ว่า การถูกปฏิเสธไม่ได้แปลว่าไม่เป็นที่รัก เช่น เมื่อคุณพ่อคุณแม่พูดว่า ‘ไม่’ หรือไม่ทำตามความต้องการของลูก ไม่ได้แปลว่าพ่อแม่ไม่รักลูก และสิ่งที่ลูกร้องขอก็ไม่ได้ผิดเสมอไป แล้วอย่าลืมอธิบายเหตุผลในการปฏิเสธให้ลูกเข้าใจด้วยทุกครั้ง
COMMENTS ARE OFF THIS POST