READING

ลูกไม่ตั้งใจเรียน: 5 กุญแจไขประตูช่วยให้ลูกเรียนสน...

ลูกไม่ตั้งใจเรียน: 5 กุญแจไขประตูช่วยให้ลูกเรียนสนุก ไม่นั่งรอเวลากลับบ้าน

ลูกไม่ตั้งใจเรียน

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยเรียนกังวลใจก็คือคุณครูบอกว่า ลูกไม่ตั้งใจเรียน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเนื้อหาที่น่าเบื่อ ไม่มีพ่อแม่คอยอยู่ข้างๆ หรือเอาแต่นั่งรอเวลากลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ

เด็กวัยกำลังซน กำลังเรียนรู้ กับการให้นั่งตั้งใจเรียนในห้องเฉยๆ อาจไม่ใช่เรื่องคู่กันตามธรรมชาติ แต่บางครั้งการที่ลูกไม่ตั้งใจเรียน ไม่ชอบเรียน และอาจทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การไม่อยากอยู่ห่างคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีความมั่นใจเมื่ออยู่ในสถานที่แปลกใหม่ รูปแบบการเรียนที่ไม่ดึงดูด หรือไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตและเข้าใจที่มาของปัญหามากกว่าการกดดันหรือทำโทษ เมื่อรู้ว่า ลูกไม่ตั้งใจเรียน

เราจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่หยิบ 5 กุญแจไขประตูสู่วิธีทำให้ลูกเรียนอย่างสนุก ไม่เอาแต่นั่งรอเวลากลับบ้านกันค่ะ

1. ความรู้นอกห้องเรียนก็สำคัญ

dislikestudying_web_1

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ มีความเข้าใจ ให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้และมีประสบการณ์นอกห้องเรียนมากขึ้น จนอาจทำให้ลูกพลอยเข้าใจไปเองว่า การเรียนในห้องเรียนไม่ใช่เรื่องสำคัญ

แต่ความจริงแล้ว ยิ่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนเป็นเรื่องสำคัญ คุณพ่อคุณแม่ยิ่งควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าการเรียนในห้องเรียนมีประโยชน์อย่างไร และเนื้อหาในบทเรียนสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ต้องนำความรู้ที่ได้จากห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ เช่น หากลูกตั้งใจเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เวลาลูกต้องการซื้อขนม ลูกจะสามารถคิดและคำนวณเงินได้ถูกต้องและรวดเร็ว หรือการตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ลูกอ่านหนังสือนิทานหรือดูการ์ตูนภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง

2. ลูกเรียน เราเรียนด้วย

dislikestudying_web_2

คุณพ่อคุณแม่สามารถมีส่วนร่วมกับการเรียนของลูกได้มากกว่าการช่วยสอนการบ้าน แต่สามารถช่วยทำให้การเรียนของลูกสนุกมากขึ้นได้ด้วยการหากิจกรรมสนุกๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้ลูกเกิดแรงบันดาลใจที่จะเอาประสบการณ์นอกห้องเรียน กลับไปศึกษาหาความรู้จากข้อมูลในห้องเรียนมากขึ้น และชวนให้ลูกเอาความรู้จากในห้องเรียนออกมาเรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น เช่น ชวนลูกดูสารคดีหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนของลูก หรือพาลูกไปเยี่ยมชมสถานที่ที่อยู่ในหนังสือเรียนลูกมากขึ้น

3. ช่วยลูกค้นหารูปแบบการเรียนที่ใช่

dislikestudying_web_3

ตามทฤษฎี VARK Model ได้แบ่งประเภทของผู้เรียนรู้ไว้ 4 รูปแบบ ดังนี้

1. Visual Learners – ผู้ที่เรียนรู้ได้ดีจากการดู

2. Auditory Learners – ผู้ที่เรียนรู้ได้ดีจากการฟังเสียง

3. Reading & Writing Learners – ผู้ที่เรียนรู้ได้ดีผ่านการอ่านและการเขียน

4. Kinesthetic Learners – ผู้ที่เรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ และการมีประสบการณ์กับเรื่องต่างๆ

คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของลูก และช่วยลูกค้นหารูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อให้ลูกรู้สึกสนุก ไม่เบื่อหน่าย และเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ลูกเป็นนักเรียนรู้ประเภท Visual Learners มักจะรู้สึกสนุกกับการเรียนได้ด้วยการดูการ์ตูน ภาพยนตร์ สารคดี รวมถึงการเรียนรู้ด้วยภาพ เช่น อินโฟกราฟิก หรือ Mind Map หากคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมกับลูก ก็จะทำให้ลูกสนุกและจำจดเนื้อหาในบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น

4. ผลการเรียนไม่ใช่ทุกอย่าง

dislikestudying_web_4

เด็กที่ถูกทำให้ไม่พอใจผลการเรียนของตัวเอง หรือถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเองทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวัง มักจะเริ่มเรียนหนังสืออย่างไม่มีความสุข และกลายเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียนในที่สุด คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรให้ความสำคัญกับผลการเรียนของลูกมากเกินไป จนทำให้ลูกต้องเรียนหนังสือด้วยความกดดัน

ในทางกลับกันคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับกระบวนการและผลลัพธ์ที่แท้จริงที่ลูกได้เรียนรู้ เช่น ลูกได้เรียนอย่างมีความสุขหรือไม่ ระยะเวลาในการเรียนแต่ละวิชาเป็นอย่างไร และลูกสามารถนำความรู้ที่ได้จากบทเรียนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร มากกว่าสนใจตัวเลขที่แสดงบนใบแสดงผลการเรียนของลูก

5. สอนให้ลูกรู้จักการทำงานเป็นทีม (Teamwork)

dislikestudying_web_5

บางครั้งลูกอาจไม่สนุกกับการเรียน หรือไม่ตั้งใจเรียน เพราะความเครียดจากสิ่งแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ลูกขาดทักษะการเข้าสังคม ทำให้ไม่มีเพื่อน และไม่ชอบการเรียนหรือทำงานร่วมกับเพื่อนในห้อง

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยได้ก็คือ สอนทักษะการเข้าสังคมและการทำงานเป็นทีมให้ลูก หากลูกมีทักษะที่สำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น มีความเป็นผู้นำ และรู้จักรับฟังความคิดเห็นคนอื่น จะช่วยส่งเสริมให้ลูกเป็นที่รักของเพื่อน และรู้สึกสนุกกับการเรียนในห้องเรียนมากขึ้น

อ้างอิง
Daniel Wong
Studelp
sphero
Miracle
Marlborough

PITTAYARAT CH.

พิทยารัตน์ ชูพล: เด็กผู้หญิงผู้รับบทบาทลูกสาวคนเล็ก ที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักเเละความใส่ใจจากคุณแม่ จนมีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะมอบความรักอันยิ่งใหญ่แบบนี้ให้ใครสักคนบ้าง

COMMENTS ARE OFF THIS POST