READING

ลูกกลืนเหรียญ: แชร์ประสบการณ์ตรง เกิดอะไรขึ้นเมื่อ...

ลูกกลืนเหรียญ: แชร์ประสบการณ์ตรง เกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกชายวัยซน ‘กลืนเหรียญ’ เข้าไปแล้ว!!!

ลูกกลืนเหรียญ

สำหรับคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยอนุบาล คงเข้าใจถึงธรรมชาติของช่วงวัยแห่งความอยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้ และชอบทดลองสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองของลูกเป็นอย่างดี

แต่บางครั้งความอยากเป็นนักสำรวจโลกของลูกก็เสี่ยงอันตราย และไม่ว่าคุณแม่จะคิดว่าตัวเองเฝ้าระวังลูกได้ดีมากแค่ไหน แต่มือไวๆ บวกกับความอยากรู้อยากลองของลูก ก็ทำให้เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

eatcoin_1

เหตุการณ์นี้เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นในระหว่างที่คุณแม่กำลังนั่งทำงาน โดยมีลูกชายตัวเล็กนั่งเล่นอยู่ข้างๆ

ความสงบผ่านไปได้ประมาณ 5 นาที ลูกชายก็หันมาบอกคุณแม่ว่าตัวเองได้กลืนเหรียญเข้าไป!!!

เราพยายามถามลูกอย่างละเอียด เพราะท่าทางลูกชายดูปกติดีทุกอย่าง เรียกว่าถ้าลูกไม่บอก แม่ก็คงไม่รู้ว่าลูกเพิ่งผ่านการกลืนเหรียญลงท้องไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่ลูกก็ยืนยันว่าตัวเองเอาเหรียญเข้าปากไปเพราะอยากรู้รสชาติของเหรียญ และเหรียญก็เกิดไหลไหลลงคอไปจนลูกรู้สึกติดคอ จึงดื่มน้ำตามเข้าไปจนหมดแก้ว แล้วเหรียญก็ไหลจากคอหลุดลงท้องไป และหันมาบอกคุณแม่ทันที

ถึงแม้ว่าลูกจะดูไม่มีอาการผิดปกติ แต่แม่ก็ต้องรีบพาลูกไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

eatcoin_2

คุณหมอเอ็กซ์เรย์แล้วก็พบว่ามีเหรียญบาทอยู่ในกระเพาะของลูกจริงๆ แต่เคราะห์ดีที่ไม่ใช่เหรียญขนาดใหญ่ คุณหมอเลยให้คำแนะนำว่า เหรียญขนาดเล็ก น่าจะสามารถออกมาพร้อมอุจจาระของลูกภายใน 1-2 วัน แต่ถ้าผ่านไปหลายวันแล้วเหรียญยังไม่ออกมา อาจจะต้องกลับมาเอ็กซ์เรย์ เพื่อดูว่าเหรียญไปค้างที่ส่วนไหนของร่างกาย แล้วค่อยนำเหรียญออกด้วยการวิธีอื่น เช่น ส่องกล้องแล้วคีบเหรียญออกมา

โชคยังดีที่สุดท้าย ทุกอย่างของเจ้าลูกชายตัวแสบก็เป็นไปตามที่คุณหมอคาดการณ์ก็คือเหรียญหลุดออกมาเองพร้อมอุจจาระ โดยที่ลูกไม่ได้รู้สึกเจ็บป่วยแต่อย่างใด

อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้คุณแม่ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับการกลืนเหรียญในเด็กอย่างจริงจัง ทำให้รู้ว่า เหรียญขนาดเล็ก คือสิ่งแปลกปลอมที่เด็กมักจะกลืนลงคอมากที่สุด และตำแหน่งที่สิ่งแปลกปลอมจะสามารถติดค้างในร่างกายได้ก็คือ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ แต่โดยส่วนมาก เหรียญขนาดเล็กจะผ่านเข้าสู่ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายออกมาได้เอง

eatcoin_3

มีข้อมูลยืนยันจากทาง Robert Kramer กุมารแพทย์ทางเดินอาหารในเด็กจากโรงพยาบาลเด็กโคโลราโด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศเกี่ยวกับการกลืนกินสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ระบุว่า ในทุกปีมีเด็กในสหรัฐอเมริกากว่า 80,000 คน กลืนสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ก่อนที่จะไหลลงสู่กระเพาะ และขับถ่ายออกมาได้เอง

แต่ในจำนวนนั้น มีเด็กประมาณ 20 คน ที่สิ่งแปลกปลอมยังคงติดอยู่ในช่องคอหรือหลอดอาหาร ซึ่งต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อเอาออกภายใน 24 ชั่วโมง

สำหรับในประเทศไทย มีข้อมูลจากเอกสาร ความชุกของการกลืนเหรียญในเด็กในโรงพยาบาลอุดรธานี และปัจจัยที่บ่งถึงความเป็นไปได้ของการหลุดของเหรียญจากกระเพาะอาหาร จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2557-2564 พบว่า สิ่งแปลกปลอมที่เด็กกลืนลงคอมากที่สุดคือ เหรียญหนึ่งบาท โดยตำแหน่งที่ติดมากที่สุดคือ หลอดอาหาร ซึ่งการมีสิ่งแปลกปลอมติดบริเวณนี้ จะทำให้เด็กมีอาการ อาเจียน เจ็บบริเวณคอ กลืนน้ำลายไม่ได้ หรือกลืนแล้วเจ็บ และเจ็บบริเวณใบหน้า แต่หากสิ่งแปลกปลอมลงไปติดในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ มักจะไม่เกิดอาการผิดปกติ และจะหลุดออกมาพร้อมการขับถ่ายได้เองภายใน 1-2 วัน

จากเหตุการณ์บีบหัวใจแม่ครั้งนี้ เลยอยากเป็นตัวแทนแบ่งปันและบอกเล่าเรื่องราวไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับแม่ๆ ที่คิดว่าดูแลลูกอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็อาจจะมีจังหวะที่พลาดไม่ทันความไวของมือและสัญชาตญาณนักสำรวจของเจ้าตัวเล็กได้อยู่ดี ดังนั้น สิ่งที่คุณแม่ควรทำก็คือหาข้อมูลเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้เสมอ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น คุณแม่ก็ต้องมีสติ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และรีบพาลูกไปให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุดนะคะ

อ่านบทความ: สำลักอาหาร กลืนของเล่น เรื่องใหญ่ที่ (อาจ) อันตรายถึงชีวิต

 

อ้างอิง
childrenscolorado
parents
r8way.moph

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST