คุณพ่อคุณแม่เคยอยากเร่งวันเร่งคืนให้ลูกน้อยข้ามพ้นวัยที่ยังฉี่รดที่นอนใช่ไหมคะ

โดยปกติแล้วการฉี่รดที่นอนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในเด็กตั้งแต่ทารกแรกเกิด ไปจนถึง 6 ปี สาเหตุเพราะกระเพาะปัสสาวะของเด็กยังมีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถกักเก็บปัสสาวะได้เป็นเวลานาน และเด็กยังไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ดีเท่าที่ควร ยิ่งตอนที่นอนหลับด้วยแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่ลูกจะรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง

แต่อาการฉี่รดที่นอนควรจะค่อยๆ หายไปเมื่อลูกโตขึ้น และคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกลูกไม่ให้ฉี่รดที่นอนได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำทุกสองชั่วโมง

ช่วงระหว่างวัน คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปเข้าห้องน้ำทุกสองชั่วโมง หากทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ ลูกจะเกิดความเคยชินและสามารถเข้าห้องน้ำเองด้วยตัวเองได้

2. ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำก่อนนอน

ไม่ควรให้ลูกกินอาหารหรือดื่มน้ำมากเกินไปก่อนเข้านอน โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม ชาเขียว เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ

หรือเว้นช่วงเวลาหลังจากดื่มน้ำประมาณ 30-60 นาที แล้วพาลูกเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนเข้านอน

3. ฝึกลูกให้เข้าห้องน้ำก่อนเข้านอน

คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน แม้ว่าลูกจะปวดฉี่หรือไม่ก็ตาม เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำก่อนนอนอย่างเป็นกิจวัตร และช่วยให้ลูกไม่ปวดฉี่กลางดึกอีกด้วย

4. ไม่ตำหนิหรือลงโทษเมื่อลูกฉี่รดที่นอน

ถ้าเกิดเหตุคับขับ ทำทุกอย่างแล้วแต่เจ้าตัวแสบก็ยังฉี่รดที่นอนอยู่ดี สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งก็คือการดุว่า ตำหนิ หรือลงโทษ เพราะจะทำให้ลูกเข้าใจว่าการขับถ่ายของตัวเองเป็นเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่พอใจ แทนที่ลูกจะกล้าบอกเมื่อต้องการเข้าห้องน้ำ อาจส่งผลให้ลูกต้องพยายามอดทนอั้นฉี่เอาไว้จนถึงที่สุด ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้อีกด้วย

และถ้าหากพบว่า ลูกอายุเกิน 6 ปี แต่ยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายหรือตื่นนอนเพื่อไปเข้าน้ำเอง และยังมีอาการฉี่รดที่นอนอยู่เป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขต่อไปค่ะ

อ้างอิง
nationwidechildrens
health.clevelandclinic
thaihealth