ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย ก็ไม่อาจปฏิเสธสำนวนโบราณที่ว่า ‘ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น’ ไปได้ เพราะลูกเปรียบเสมือนเงาสะท้อนพฤติกรรมของพ่อแม่ ลูกมักจะเลียนแบบสิ่งที่เห็น และได้ยินจากคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และพฤติกรรมเลียนแบบนั้นจะเริ่มแสดงออกชัดเจนเมื่อลูกมีอายุตั้งแต่สี่เดือนขึ้นไป

ซึ่งพฤติกรรมน่ารักของลูกน้อยที่ถอดแบบมาจากคุณพ่อคุณแม่ ชนิดที่แค่เห็นก็รู้แล้วว่าหนูน้อยคนนี้เป็นลูกใคร เช่น

1. รอยยิ้มแป้นแล้นมาจากแม่พิมพ์คู่นี้

ทารกในวัยสี่เดือนเริ่มเลียนแบบรอยยิ้มของคุณพ่อคุณแม่ พร้อมกับส่งเสียงอ้อแอ้เพราะอยากคุยด้วย และเมื่อลูกยิ้มร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขออกมา ส่งผลให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและมีพัฒนาการที่ดี

นอกจากนี้หนูน้อยตัวแสบก็มักจะใช้รอยยิ้มน่ารัก ออดอ้อนให้คุณพ่อคุณแม่ตามใจ  เห็นทีไรก็ใจอ่อนทุกที เชื่อเถอะว่ารอยยิ้มของลูกมักจะถอดแบบมาจากคุณพ่อหรือคุณแม่อย่างเราๆ นี่แหละ

2. ท่านอนองศาเดียวกันเป๊ะๆ

ไม่มีอะไรชัดไปมากกว่านี้อีกแล้ว ก่อนนอนคุณพ่อคุณแม่จัดท่านอนให้ลูกเรียบร้อย แต่เมื่อลูกหลับสนิท ท่านอนของลูกเหมือนกับท่านอนของคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งการวางมือและเท้า จึงไม่ต้องแปลกใจที่หลายครอบครัวมักจะมีรูปถ่ายเปรียบเทียบท่านอนของเจ้าตัวเล็กกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะท่าทางการนอนที่คล้ายกัน บอกถึงความสัมพันธ์และความใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัวนั่นเอง

และไม่ใช่แค่ท่านอน แต่ท่านั่งก็ยังถอดแบบกันมาด้วย เห็นได้ชัดเมื่อลูกอยู่ในวัยอนุบาลหรือวัยประถม ลูกจะมีท่านั่งแปลกๆ เช่น เลียนแบบท่านั่งของคุณย่า กับท่านั่งขัดสมาธิสองชั้น และเลียนแบบท่านั่งของคุณแม่ กับท่านั่งไขว้ห้างหรือนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง

3. คำพูดและจังหวะการพูด หลับตาก็รู้ว่าลูกใคร

เมื่อลูกเข้าสู่วัยแปดเดือนจะเริ่มเลียนแบบคำพูดที่ได้ยินได้ ในวัยนี้คุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นพูดคุยกับลูก ฝึกให้ลูกเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ และเมื่อลูกเริ่มพูดเป็นประโยคได้แล้ว คำพูดบางคำที่ลูกพูดมักจะเป็นคำเดียวกับคำพูดติดปากของคุณพ่อคุณแม่ และลูกมักจะพูดคำนั้นซ้ำไปซ้ำมา เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณ

รวมถึงเลียนแบบจังหวะการพูดถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนพูดเร็ว ลูกก็มีแนวโน้มจะเป็นเด็กชอบพูดเร็วๆ ถ้าคุณพ่อคุณแม่พูดช้า ลูกก็จะพูดช้าตามไปด้วย

4. ท่าเดินที่เหมือนกันอย่างกับฝาแฝด

ท่าเดินของลูกที่คล้ายกับคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่ใช่การเลียนแบบพฤติกรรม แต่เป็นไปตามสัญชาตญาณของลูก ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการเดิน เช่น เดินช้า เดินเร็ว ค่อยๆ ก้าว หรือจังหวะท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายเวลาเดิน   

สำหรับเด็กเล็กวัยหัดเดิน อาจจะยังมองไม่รู้ว่าเดินเหมือนคุณพ่อหรือคุณแม่ แต่เมื่อลูกเดินคล่องแล้ว ลองสังเกตท่าเดินของลูกดูก็ได้

5. สายตาและท่าทางเวลาโกรธ เห็นแล้วคิดถึงตัวเอง

ลูกในวัยหนึ่งขวบ สามารถเลียนแบบพฤติกรรมรวมถึงสายตาและท่าทางของคุณพ่อคุณแม่เวลาโกรธหรือโมโหได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังพฤติกรรมที่ไม่อยากให้ลูกเลียนแบบ ยกตัวอย่างเช่น การทะเลาะ พูดคำหยาบ การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า

และพยายามอย่าให้ลูกเห็นตอนที่คุณพ่อคุณแม่มีอารมณ์โกรธหรือ โมโห เพื่อไม่ให้ลูกตกใจกลัวหรือจดจำพฤติกรรมมาเลียนแบบจนกลายเป็นนิสัย

6. ท่ากินอย่างเอร็ดอร่อยนี่โคลนนิ่งกันมาชัดๆ

โดยที่ไม่ต้องสอน แต่ลูกมักจะมีพฤติกรรมเลียนแบบท่าทางการกินมาจากคุณคุณพ่อหรือคุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น การพยายามอ้าปากกว้างๆ ตามคุณพ่อเวลากินอาหารคำใหญ่ หรือเคี้ยวอาหารช้าๆ ตามคุณแม่ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ

อ้างอิง
Kiiduofficial
Youtube
Parentsone