มนุษย์แม่ยืนหนึ่งเรื่องความยุ่งวุ่นวายในชีวิตประจำวันตั้งแต่ลืมตาตื่นในตอนเช้าจนถึงล้มตัวลงนอน เพราะไหนจะต้องเลี้ยงลูก ต้องดูแลความสะอาดปัดเก็บกวาดเช็ดถูบ้านที่มีสภาพเหมือนเพิ่งเกิดสงคราม ไหนจะต้องวิ่งเข้าครัว เตรียมทำกับข้าว เสร็จแล้วต้องมาต่อด้วยงานเก็บล้างทำความสะอาดอีก ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่คุณแม่จะไปทำผม ทำเล็บ มาส์กบำรุงผิว ลืมได้เลย นานทีปีหนเท่านั้นที่คุณแม่จะมีเวลาเหลือไปดูแลตัวเอง

เราจึงขอแบ่งปันเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการทำงานบ้าน โดยใช้สิ่งที่มีในบ้าน ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน เพื่อช่วยทุ่นแรง ทุ่นเวลา ให้กับคุณแม่จะได้มีเวลาไปทำสวยให้ตัวเองบ้าง

ยัยคราบมันตัวร้ายกับนายกล่องพลาสติก:
เคลียร์กันได้ด้วยเกลือ

กล่องพลาสติกยืนหนึ่งเรื่องความสะดวกสบาย แต่เรามั่นใจว่าไม่มีบ้านไหนไม่เคยประสบปัญหาล้างคราบมันและกลิ่นอาหารติดกล่องพลาสติก ยิ่งอาหารแสนอร่อยของคนไทยเราที่เป็นอาหารต้ม ผัด แกง ทอด มีความมัน มีสีสันของเครื่องเทศ และมีกลิ่นเฉพาะตัว บวกเข้ากับคุณสมบัติของเนื้อพลาสติกมีลักษณะยอมให้โมเลกุลต่างๆ ในอาหารซึมผ่านไปฝังตัวในส่วนเว้านูนของภาชนะ จึงทำให้กลิ่นและความมันติดค้างอยู่ในพลาสติก

เทคนิคนี้มาจากรายการ Hanataka no Yuetsukan ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่บรรดาแม่ๆ แข็งขันในการทำข้าวกล่องให้คุณพ่อคุณลูกพกใส่กระเป๋าไปรับประทานนอกบ้าาน ซึ่งวิธีการก็ง่ายแสนง่าย แค่เทน้ำเปล่า บีบน้ำล้างจาน ใส่เกลือที่ใช้ทำอาหาร ปิดฝากล่อง แล้วเขย่าๆ กล่องประมาณ 30 วินาที เปิดฝาล้างน้ำเปล่า ก็เสร็จสิ้นภารกิจพายัยคราบมันตัวร้ายออกจากนายกล่องพลาสติกแล้วค่ะ

ซึ่งสาเหตุที่เทคนิคนี้สามารถขจัดคราบมันได้โดยง่ายเพราะ เม็ดเกลือที่มีโลเมกุลเล็กมากๆ สามารถเข้าช่วยกวาดเอาคราบน้ำมันและกลิ่นที่ติดอยู่ในส่วนเว้านูนของพลาสติกให้ออกไปจากภาชนะได้นั่นเอง

ตู้เย็นจ๋า (เบกกิ้งโซดามาแล้ว) กลิ่นเหม็นลาก่อน:

‘อาหารใดเมื่ออยู่ในตู้เย็นแล้ว อาหารนั้นจะเป็นอมตะ’ เป็นประโยคที่เราชอบเอาไว้แซวคุณย่าคุณยายเป็นประจำ ของแถมจากความอมตะคือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ สาเหตุของการเกิดกลิ่นก็เพราะว่าตู้เย็นเป็นพื้นที่ปิดจึงเกิดกลิ่นอับได้ง่าย อาหารหลากหลายที่ถูกเก็บไว้ด้วยความหวังว่าต้องมีสักวันที่เราหยิบออกมากิน ที่สำคัญการทำความสะอาดตู้เย็นก็ยุ่งยาก สาเหตุมากมายที่ว่าเลยทำให้ปัญหากลิ่นในตู้เย็นเป็นปัญหาที่มีทุกบ้าน แก้ได้ด้วยเบกกิ้งโซดาที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ สามารถชำระล้างสารส่งกลิ่นในตู้เย็นออกจากพลาสติก และยังสามารถละลายกรดไขมันที่มีกลิ่นออกไปได้ด้วย

วิธีการทำความสะอาดตู้เย็นที่เราเอามาแนะนำคือ ให้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำยาล้างจานอย่างละ 1 ช้อนชา และน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง เช็ดทุกชิ้นส่วนของตู้เย็น จุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษคือยางภายในตู้เย็น ที่เป็นจุดสะสมของเชื้อจุลินทรีย์มากกว่าจุดอื่น แล้วให้น้ำสะอาดเช็ดตาม

ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ขัดสนิมออกไปด้วยซอสมะเขือเทศ

อย่างที่เรารู้กันว่าเครื่องใช้ในครัว เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง และเครื่องมือทำสวนที่ทำมาจากโลหะ เมื่อใช้งานไปสักพัก ผิวของเหล็กจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน และความชื้นในอากาศ ในน้ำ แม่บ้านสายประหยัดอย่างเรา พอขึ้นสนิมจะทิ้งก็เสียดาย จะลงมือขัดก็ไม่ค่อยจะออก แต่จริงๆ แล้วของใกล้ครัวอย่างซอสมะเขือเทศสามารถช่วยขจัดสนิมได้แบบไม่น่าเชื่อ

วิธีก็ง่ายอีกแล้ว แค่ทาซอสมะเขือเทศหนาๆ บริเวณที่เกิดสนิม ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วถูด้วยผ้านุ่ม หรือใช้แปรงค่อยๆ ขัดให้สนิมหลุดออก ก่อนใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามอีกรอบ เพราะกรดซิตริกที่มีในมะเขือเทศตามธรรมชาติสามารถกำจัดสนิมบนพื้นโลหะได้ แต่ไม่สามารถขจัดสนิมที่ฝังกินเนื้อโลหะได้

**ขอเสริมเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า เมื่อโดนเหล็กขึ้นสนิมบาดจะทำให้เป็นบาดทะยักนั้นเป็นความเชื่อที่ไม่จริงเท่าไหร่นัก เพราะการเกิดบาดทะยักไม่ได้เกิดจากสนิม แต่เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสติเดียม เททาไน เข้าสู่ร่างกายของคนเราเมื่อเกิดบาดแผล พบได้ตามพื้นดิน พื้นที่สกปรกทั่วไป หรืออาจจะอยู่บนตะปูขึ้นสนิมที่ถูกทิ้งไว้ในที่สกปรก เพราะฉะนั้นแม้ว่าเราโดนของมีคมที่ไม่เป็นสนิมบาด แต่ถ้าบริเวณนั้นมีแบคทีเรียคลอสติเดียม เททาไนอยู่ ก็ทำให้เราเป็นบาดทะยักได้เหมือนกัน

อ้างอิง
Cleanipedia
Sanook