คุณพ่อคุณแม่ทุกคนรู้ดีว่าโภชนาการที่ดีสำหรับลูกเป็นเรื่องสำคัญ แต่ภาระหน้าที่อันยุ่งเหยิง ทำให้การออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือซื้ออาหารกลับมากินที่บ้าน เป็นทางเลือกและทางออกให้คุณพ่อคุณแม่เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้
แต่ถึงอย่างนั้นการ ทำอาหารให้ลูก ก็เป็นกิจกรรมที่ให้ประโยชน์กับลูกมากกว่าความอิ่มท้อง เพราะยังช่วยสร้างสุขนิสัยการกินที่ดี พัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว และเสริมสร้างพัฒนาการของลูก
ถึงแม้ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่จะต้องพยายามหาตัวช่วยเพื่อประหยัดเวลาให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเป็นไปได้ ขอให้คุณพ่อคุณแม่เลือกที่จะยอมใช้เวลาไปกับกิจกรรม ทำอาหารให้ลูก กินเองบ้าง เพื่อสุขภาพและพฤติกรรมการกินที่ดีของลูกในระยะยาวต่อไป
ประโยชน์ของการทำอาหารให้ลูกกินเอง
1. ควบคุมปริมาณและรสชาติอาหารได้

เพราะการลงมือทำอาหารให้ลูกด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่จะสามารถเลือกสรรวัตถุดิบที่สดใหม่และเลือกใช้เครื่องปรุงรสชาติที่ไม่มีโทษต่อร่างกายให้กับลูกได้
นอกจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการและความจำเป็นต่อการเติบโตของลูก และยังไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดอีกด้วย
2. ช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้กับลูก

การทำอาหารกินเอง ช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้กับลูกได้ เพราะลูกจะมีโอกาสได้กินอาหารที่หลากหลาย โดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นตัวอย่างและสร้างนิสัยการกินที่ดี เช่น กินอาหารแต่พอเหมาะ และไม่กินอาหารรสจัด
Dr. Elizabeth Dunford ผู้เขียนงานวิจัยจาก George Institute for Global Health กล่าวว่า “ต่อมรับรสของเด็กจะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ดังนั้นอาหารที่มีการเติมน้ำตาลหรือเกลือในปริมาณสูงกว่ามาตรฐาน จะเป็นตัวกำหนดนิสัยการบริโภคอาหารของเด็กในอนาคตด้วย”
3. ส่งเสริมให้ลูกมีพฤติกรรมที่ดี

งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นตรงกันว่าการกินอาหารพร้อมกันในครอบครัวส่งผลดีต่อเด็กในหลากหลายด้าน มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า เด็กวัยรุ่นที่กินอาหารกับครอบครัวเป็นประจำจะมีสุขภาพดี มีความสุขมากขึ้น เรียนหนังสือได้ดีขึ้น และมีพฤติกรรมเสี่ยงน้อยกว่าเด็กวัยรุ่นที่ไม่ได้กินอาหารกับครอบครัวเป็นประจำ
4. ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีสุขภาพจิตดีขึ้น

การทำอาหารกินเอง ไม่ใช่เพียงทำให้ได้กินอาหารที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนช่วยทำให้คลายความตึงเครียด ผ่อนคลาย และมีสุขภาพจิตดีขึ้นได้
สถาบันจิตเวชศาสตร์หลายแห่ง ก็มักที่จะเลือกใช้ Cooking Therapy หรือ Kitchen Therapy หรือที่เราเรียกว่าการบำบัดด้วยการทำอาหาร เพื่อรักษาโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคจิตเวชอื่นๆ เพราะการทำอาหารช่วยทำให้มีสมาธิมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลไปถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง (Self-esteem) เพราะเมื่อทำอาหารสำเร็จ ก็จะช่วยทำให้รู้สึกมีความภาคภูมิใจกับอาหารที่ทำด้วยตัวเองได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST