ผู้ใหญ่หลายคนมักจะคิดว่า เมื่อโตขึ้น เด็กๆ อาจจะจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เด็กๆ ก็มีความสามารถในการจดจำมากกว่าที่คิด ดังนั้น ไม่ว่าลูกจะจำได้หรือไม่ แต่การสร้าง ความทรงจำวัยเด็ก ให้เป็นความทรงจำหลักที่ดีในชีวิตลูก ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้ลูกเติบโตได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้นได้

Core Memories หรือความทรงจำหลักของคนเรา คือความทรงจำที่เกิดจากประสบการณ์บางอย่างที่สำคัญในชีวิต โดยความทรงจำหลักนี้จะส่งผลต่อพฤติกรรม อารมณ์ และทัศนคติการใช้ชีวิตของแต่ละคนได้

งานวิจัยพบว่า คนที่มีความทรงจำหลักที่ดี มักจะเป็นคนที่มีความสุข มีสุขภาพดี มีทักษะการรับรู้ การมองโลกในแง่ที่ดี และรับมือกับความเครียดได้ดีกว่าคนที่มีความทรงจำหลักเชิงลบ

M.O.M จึงมีเทคนิคการสร้าง ความทรงจำวัยเด็ก ของลูก ให้เป็นความทรงจำหลักที่ดี เพื่อเป็นพื้นฐานในการเติบโตและสร้างตัวตนของลูกต่อไป มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

1. ทำกิจกรรมแปลกใหม่กับลูก

กิจกรรมที่ต่างจากทุกวัน จะทำให้ลูกจดจำเหตุการณ์นั้นได้ดีกว่าปกติ กิจกรรมแปลกใหม่ที่ว่า ไม่จำเป็นต้องพาลูกออกเดินทางไปไหนไกล แต่สามารถเริ่มจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยชวนลูกทำมาก่อน เช่น ชวนลูกไปเลือกซื้อวัตถุดิบทำอาหารที่ไม่เคยทำมาก่อน ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเข้าครัวและให้เขาได้ชิมฝีมือตัวเอง ชวนลูกเลือกซื้อต้นไม้จัดสวนหน้าบ้านด้วยตัวเอง กิจกรรมที่ท้าทาย และมีความหมายกับทุกคนในบ้าน จะทำให้ลูกตื่นเต้นและเก็บบันทึกประสบการณ์นั้นไว้ในความทรงจำต่อไป

2. ให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ ของลูก

ลูกจะมีช่วงวัยแห่งความอยากรู้อยากเห็น สงสัย และตั้งคำถามกับคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม จะเป็นการสร้างความทรงจำเชิงลบให้กับลูกได้ ดังนั้น ในทางตรงข้าม หากคุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ให้ความสำคัญกับทุกคำถามหรือความสงสัยของลูก เช่น เมื่อลูกให้ความสนใจลูกแมวนอกบ้าน แทนที่จะห้ามและพาลูกเดินหนี คุณแม่คุณแม่ควรอนุญาตให้ลูกหยุดมองดูลูกแมว ลองให้ลูกสังเกตว่าลูกแมวเป็นเพศไหน ลายแบบนี้เรียกว่าอะไร จะช่วยสร้างความทรงจำที่ดีให้กับลูกได้ เพราะแม้แต่เรื่องเล็กๆ ที่ลูกสนใจ คุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมจะให้ความสำคัญเสมอ

3. เล่นสนุกสุดเหวี่ยงไปกับลูก

การเล่นกับลูกสำคัญต่อความทรงจำหลักเชิงบวกของลูกมาก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน เล่นน้ำ หรือเล่นเลอะเทอะไปพร้อมกับลูก หรือแม้แต่การเล่านิทาน หากคุณพ่อคุณแม่สนุกกับการทำท่าทางหรือเลียนเสียงตัวละครในนิทานให้ลูกฟังด้วย ลูกก็จะยิ่งสนุกตื่นเต้น และจดจำเรื่องราวของนิทานได้แม่นยำ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของลูกในวัยเด็กก็คือช่วงเวลาที่ได้เล่นสนุกกับคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มที่นั่นเอง

4. ขอบคุณสิ่งดีๆ ทุกคืน

ก่อนปิดไฟเข้านอนทุกคืน คุณพ่อคุณแม่ลองชวนลูกพูดคุย ทบทวน และขอบคุณ 3 สิ่งในชีวิตวันนั้นๆ ที่ทำให้ลูกรู้สึกสนุก ตื่นเต้น หรือมีความสุขได้ เพื่อฝึกให้ลูกไม่มองข้ามสิ่งดีๆ หรือสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ลูกจะได้เลือกจดจำแต่เรื่องราวที่ดี มากกว่าประสบการณ์เชิงลบ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความทรงจำที่ดีได้แล้ว ยังช่วยฝึกจิตใจลูกให้เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีกำลังใจพร้อมรับมือกับเรื่องต่างๆ ในอนาคตได้ดีมากขึ้นอีกด้วย

อ้างอิง
Psychcentral
Science Alert