ในสถานการณ์ที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาด ทุกคนในสังคมเริ่มวิตกกังวลว่าตัวเองจะมีโอกาสติดเชื้อหรือไม่ แต่ถ้าคนทั่วไปกังวลแล้ว เราเชื่อว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็คงกังวลกับสถานการณ์นี้มากขึ้นเป็นสองคน

รัฐบาลประเทศอังกฤษ ประกาศว่าหญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงจากเชื้อไวรัส COVID-19 มากกว่าคนทั่วไป โดย Chris Whitty หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของกรมสาธารณสุข (Public Health) ของประเทศอังกฤษ กล่าวว่าคนที่อยู่ในกลุ่ม ‘ความเสี่ยงสูง’ ควรอยู่บ้านเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว และสตรีมีครรภ์

Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอาการเจ็บป่วยจากไวรัส COVID-19 รุนแรงกว่าคนทั่วไป

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการวิเคราะห์จากคุณแม่ตั้งครรภ์ 147 คน โดยมีคุณแม่ 64 คนที่ติดเชื้อ COVID-19 และอีก 82 คน เป็นคนที่ไม่แสดงอาการ และคนที่กำลังสงสัยว่ากำลังติดเชื้อหรือไม่

พบว่าคุณแม่ 8 เปอร์เซ็นต์มีอาการป่วย อีก 1 เปอร์เซ็นต์มีอาการป่วยรุนแรง แต่หลายคนหายป่วยได้โดยที่ไม่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ มีเพียงแค่คุณแม่ 1 ใน 6 คนที่มีเชื้อ COVID-19 แล้วมีอาการป่วยหนักและหายใจลำบาก

COVID-19 สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์หรือไม่

การข้อมูลของราชวิทยาลัยสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในสหราชอาณาจักรยังไม่มีหลักฐานว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ COVID-19 มีความเสี่ยงในการแท้งบุตร หรือเชื้อไวรัสสามารถถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ได้

ข้อมูลจากสถิติในเมืองอู่ฮั่น มีคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้รับเชื้อไวรัส จำนวน 9 ราย แต่ก็ไม่มีรายงานว่า เชื้อไวรัสสามารถส่งผ่านไปยังทารกในครรภ์ได้เช่นกัน อาจบอกได้ว่าเชื้อไวรัส COVID-19 ไม่สามารถถ่ายทอดผ่าน น้ำคร่ำ น้ำนม และสายสะดือจากแม่สู่ลูกได้

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง

สตรีมีครรภ์ควรลดการพบเจอกับผู้คน และแยกตัวเองเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ด้วยการทำงาน หรือทำกิจกรรมที่บ้าน

Denise Jamieson ประธานสาขานรีเวชวิทยาและสูติศาสตร์กล่าวว่า “เราไม่มีหลักฐานว่าสตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงต่อไวรัส COVID-19 สูงกว่าคนทั่วไป แต่สตรีมีครรภ์ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ดังนั้นถึงแม้จะต้องกักตัว แต่ไม่ควรเลื่อนนัดหมายกับคุณหมอในการฝากครรภ์หรือตรวจสุขภาพของลูกในท้อง เพราะหลายอย่างไม่สามารถทำผ่านโทรศัพท์ได้ เช่น การฟังเสียงหัวใจลูก หรือการตรวจอัลตราซาวด์”

COVID-19 มีความเสี่ยงต่อทารกแรกเกิดอย่างไร

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งคือไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19 ในน้ำนมแม่ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) Dr. Amir Khan อาจารย์อาวุโสที่ Leeds และ Bradford University กล่าวว่า

“หากคุณแม่ต้องให้นมลูก ถึงแม้จะไม่มีอาการป่วย แต่สุขอนามัยของมือเป็นสิ่งสำคัญ และหากคุณแม่มีอาการป่วยต้องปั๊มน้ำนมลงในขวดนมและให้ผู้อื่นป้อนแทน เราไม่แนะนำให้หยุดให้นม เพราะทารกต้องการแอนติบอดีในน้ำนมแม่ ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ”

จากการศึกษาของเด็ก 2,143 รายที่ต้องสงสัยหรือได้รับการยืนยันว่าเป็นโรค COVID-19 ในประเทศจีน พบว่าเด็ก 94.1 เปอร์เซ็นต์ ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนอีก 5.9 เปอร์เซ็นต์  มีอาการรุนแรง เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีความเสี่ยงมากที่สุด ในขณะที่ทารกที่อายุต่ำกว่า 12 เดือน เป็นกลุ่มที่จะได้รับอันตรายจากเชื้อไวรัสมากที่สุด

ทั้งนี้ CDC มีข้อแนะนำถึงคุณแม่ ที่ควรระวังเช่น ทำกิจกรรมอยู่ในบ้าน งดออกไปเจอผู้คน ล้างมือทุกครั้งก่อนที่จะสัมผัสตัวทารก และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ให้นมลูก

อ้างอิง
time