READING

พ่อสอนลูกชาย: 4 พฤติกรรมอ่อนโยน ที่คุณพ่อควรสอนให้...

พ่อสอนลูกชาย: 4 พฤติกรรมอ่อนโยน ที่คุณพ่อควรสอนให้กลายเป็นจุดแข็งของลูกผู้ชาย

พ่อสอนลูกชาย

เมื่อลูกชายเข้าสู่วัยเรียน คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มสังเกตเห็นว่า ลูกและเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน มักจะมีพฤติกรรมและลักษณะนิสัยบางอย่างคล้ายกัน เช่น ชอบเล่นโลดโผน ชอบเอาชนะ หรือพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย ทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและการเรียนรู้จากเพื่อนรอบตัว อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจเท่าไรนัก แต่ความจริงแล้วพฤติกรรมบางอย่างของเด็กผู้ชาย เป็นเพียงการอยากแสดงความเข้มแข็งหรือแข็งแรงตามประสาเด็กผู้ชาย และบางครั้งก็แสดงออกเพราะไม่อยากถูกมองว่าอ่อนแอกว่าคนอื่นเท่านั้น

งานวิจัย พบว่า เด็กผู้ชายมักจะเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมที่แสดงถึงความเป็นลูกผู้ชายจากคุณพ่อ เช่น ภาวะการเป็นผู้นำ ความเข้มแข็ง หรือการพึ่งพาตนเอง และมองว่าพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามอย่างการขอความช่วยเหลือ การอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ดูอ่อนแอหรือมองว่าเป็นจุดอ่อนของการเป็นลูกผู้ชายนั่นเอง

และเพื่อให้คุณพ่อได้มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลลูกมากขึ้น การแบ่งหน้าที่ให้ คุณพ่อสอนลูกชาย ในเรื่องที่ลูกชายควรทำจึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่สุด เพราะลูกชาย มักจะมองคุณพ่อเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิต

เราลองมาดู 4 พฤติกรรมสุดอ่อนโยน ที่หากคุณพ่อนำไปสอนลูกชายแล้วละก็ พฤติกรรมเหล่านี้ จะกลายเป็นลักษณะนิสัยที่เป็นจุดแข็งและข้อดีในตัวลูกไปจนโตเลยล่ะค่ะ

1. การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

strongson_web_1

นักจิตวิทยา เผยว่า เด็กผู้ชายช่วงอายุ 4–5 ปี เป็นวัยที่เริ่มต้องการความสนใจและเป็นที่ยอมรับ หรือพูดอีกนัยก็คือ ‘อยากเป็นคนเก่ง’ ในสายตาคนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน เด็กชายวัยนี้จึงมองว่าการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จะให้ตัวเองดูเป็นคนไม่เก่ง ไม่มีความสามารถ และอาจไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ ได้

แต่ความจริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกชายวัยนี้เข้าใจได้ว่า การรู้จักขอความช่วยเหลือในเวลาที่จำเป็น เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น แต่การรู้จักขอความช่วยเหลือในยามคับขัน ยังทำให้ลูกสามารถเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้อีกด้วย

เทคนิคการสอนให้ลูกชายรู้จักขอความช่วยเหลือก็คือ การให้คุณพ่อ ผู้เป็นแบบอย่างของผู้ชายในสายตาลูก ลองเป็นคนขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เช่น ขอให้คุณแม่ช่วยสอนทำอาหาร หรือขอให้ลูกชายสอนเล่นวิดีโอเกม เพื่อให้ลูกชายเรียนรู้ว่าการขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่ใช่การแสดงจุดอ่อนหรือความไม่เก่ง แต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้ลูกมีโอกาสได้เรียนรู้จากคนอื่นมากขึ้น

2. การมีระเบียบวินัย

strongson_web_2

เด็กผู้ชายมักจะมีความดื้อรั้น ซุกซน และเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง รวมถึงมักจะแบ่งแยกเด็กที่แสดงออกในทางตรงข้าม เช่น หัวอ่อน เรียบร้อย และเอาใจคนอื่น ว่าอ่อนแอกว่า

คุณพ่อจึงควรสอนให้ลูกชายเข้าใจว่าการเป็นเด็กที่มีระเบียบวินัย เชื่อฟังคำสอนคุณพ่อคุณแม่ ไม่ใช่การแสดงออกของคนอ่อนแอ แต่เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ลูกสามารถวางแผนการใช้ชีวิตและพัฒนาทักษะอื่นๆ ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ความสุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน และรู้จักกาลเทศะยังเป็นกุญแจสำคัญสู่การเป็นสุภาพบุรุษหรือผู้ชายที่น่าชื่นชมอีกด้วย

3. การพูดขอโทษและการให้อภัย

strongson_web_3

ลูกชายควรเรียนรู้ที่จะกล่าว ‘ขอโทษ’ ด้วยความจริงใจ เพราะการขอโทษ หมายถึงการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง และเยียวยาความรู้สึกของคนอื่นได้ดีและเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด

หากคุณพ่อเป็นคนสอนให้ลูกชายรู้จักขอโทษด้วยความจริงใจตั้งแต่เล็ก ยังช่วยส่งเสริมอุปนิสัยการให้อภัยผู้อื่นและรู้จักการให้อภัยตัวเอง นำไปสู่การเป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็งมากกว่าคนที่แสดงความแข็งกร้าว ไม่ยอมรับความผิด ไม่ขอโทษ และไม่รู้จักให้อภัยคนอื่นอีกด้วย

4. การแสดงออกที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอ

strongson_web_4

โดยส่วนใหญ่ลูกชายมักจะหลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอหรือความหวาดกลัวออกมา เพราะความกลัวและการแสดงความอ่อนแอคือจุดอ่อน ที่มักได้ยินผู้ใหญ่บอกว่าลูกผู้ชายไม่ควรมี

แต่ความจริงแล้วการเก็บซ่อนความรู้สึกเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความกลัว หรือความวิตกกังวลเอาไว้ อาจทำให้ลูกรู้สึกโดดเดี่ยวและกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความสุขได้

ดังนั้น คุณพ่อจึงควรสอนลูกชายว่าการแบกรับภาระทางอารมณ์ไว้คนเดียวไม่ใช่สิ่งที่ลูกควรทำและจดจำไว้เสมอว่า ‘ทุกคนล้วนมีมุมอ่อนแอ’ ไม่เว้นแม้เต่ตัวคุณพ่อเอง ยิ่งไปกว่านั้น การสอนลูกชายให้รู้จักแบ่งปันความรู้สึกให้คนสำคัญรับรู้ยังช่วยฝึกการเข้าอกเข้าใจ และส่งเสริมนิสัยให้ลูกชายรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอีกด้วย

อ้างอิง
ALL PRO DAD
Scientific American
informa

PITTAYARAT CH.

พิทยารัตน์ ชูพล: เด็กผู้หญิงผู้รับบทบาทลูกสาวคนเล็ก ที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักเเละความใส่ใจจากคุณแม่ จนมีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะมอบความรักอันยิ่งใหญ่แบบนี้ให้ใครสักคนบ้าง

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST