READING

ด้วยสองมือพ่อนี้ที่สร้างเพจ...

ด้วยสองมือพ่อนี้ที่สร้างเพจ

1. คุณพ่อเหว่ง—ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์
ผู้ก่อตั้งเพจ Little Monster

ขอขอบคุณภาพจากเพจ Little Monster

“จริงๆ มันเริ่มจากภรรยาผม เขาซึมเศร้าหลังคลอด เลี้ยงลูกอยู่กับบ้านแล้วเครียด เราก็ห่วง เพราะทำงานกว่าจะกลับบ้านก็ดึกแล้ว เลยพยายามเสนออะไรให้เขาลองทำสนุกๆ แต่จริงๆ แอบคิดว่ามันจะต่อยอดได้นะ แต่ไม่บอกเขา กลัวเขาเครียด

แล้วเราก็ทำงานด้านสถาปัตย์และแอนิเมชั่นมาก่อน ภรรยาก็เป็นกราฟิก เราเลยผลักดันโดยการสเก็ตช์คาแรกเตอร์สัตว์ประหลาดตัวเขียวๆ นี่ไปก่อน แล้วให้เขาไปตกแต่ง ใส่อารมณ์ ความรู้สึก และเล่าเรื่องราว จะสุข เศร้า เหงา หรือเบื่อ อะไรก็ได้ โดยใช้คำพูดของตัวเองผ่านเจ้าตัวนี้ลงเพจไปเลย”

แต่ในช่วงปีแรกในเพจก็ยังเป็นแค่ภาพนิ่งกับภาพการ์ตูน กระทั่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คุณแม่เห็นคุณลูกหยอกล้อกับคุณพ่อ แล้วมันน่ารักน่าหมั่นไส้เหลือเกิน เลยรบเร้าให้คุณพ่ออัดคลิปง่ายๆ จากมือถือมาให้

“จริงๆ เราไม่ชอบออกสื่อ แต่พอเขาขอบ่อยๆ เข้า เราก็ต้องอัดให้แล้วส่งไป ซึ่งมันก็เป็นคลิปสั้นๆ ง่ายๆ อย่างตอนระหว่างทางไปส่งน้องจินที่โรงเรียน ตอนไปตลาดด้วยกัน เราก็คุยกันไป แล้วคุณแม่ก็จะอัปขึ้นเพจ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีก็เลยทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้”

คุณพ่อบอกว่าที่มาถึงเกือบสองล้านไลก์ได้เป็นเพราะความบังเอิญ แต่เราว่า มันมาจากความรักที่คุณพ่อมีให้คุณแม่ และความจริงใจที่จะสื่อสารกับลูกน้อย จนทำเอาคนทั้งเมืองชื่นชอบ

เพจ Little Monster เพจที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายครอบครัวต้องกดไลก์ ไปจนถึงคนทั่วไปก็อดเอ็นดูความน่ารักขี้เล่นของครอบครัวนี้ไม่ได้ พวกเขาจะมาเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันกับลูกๆ อย่างเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวาและเรียกเสียงหัวเราะให้เราทุกคนได้ด้วย
ปัจจุบันมียอดกดติดตามในเฟซบุ๊กเกือบสองล้าน จากเพจที่เคยทำกันเล่นๆ แค่สามคนพ่อแม่ลูก ก็ขยายครอบครัวจนมีทีมงานมาช่วยกัน 7-8 คนแล้ว
Facebook: Little Monster

2. คุณพ่อบิน—รชต จรรยาภัค
หนึ่งในแอดมินผู้ก่อตั้งเพจ เลี้ยงลูกรอบโลก

ขอขอบคุณภาพจากเพจ เลี้ยงลูกรอบโลก

“เรากับภรรยาชอบเที่ยว พอมีลูก (น้องมะลิ อายุ 3 ขวบ 2 เดือน) ก็อยากพาลูกไปเที่ยวด้วยกัน ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามพาลูกออกนอกกรุงเทพฯ ทุกเสาร์อาทิตย์ แล้วก็ไปต่างประเทศให้ได้ปีละ 2-3 ครั้ง จนเมื่อต้นปีพาลูกไปเดินป่าที่แทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย แล้วเพื่อนมาเห็นเขาก็ ‘เฮ้ย พาลูกไปได้ด้วยหรอ’ นั่นแหละครับ ก็เลยอยากจะมาแชร์ แลกเปลี่ยน และจุดประกายให้ครอบครัวอื่นๆ

การท่องเที่ยวมันไม่ได้แค่ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับลูกและตัวเราเอง แต่พอไปเที่ยวด้วยกัน ทุกคนจะรีแล็กซ์ เป็นบรรยากาศของความสุข เป็นเวลาคุณภาพที่คุณภาพจริงๆ”

เพจ เลี้ยงลูกรอบโลก เพจน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อต้นปี 2017 แต่ไฟแรงจัดด้วยว่าถ้ารวมๆ ข้อมูลของแอดมินทุกคน เด็กน้อยวัย 1-3 ขวบในเพจนี้ก็ไปเที่ยวมาแล้วรอบโลกจริงๆ
ปัจจุบันกลายเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่หัวใจยังรักอิสระ และเปิดรับเรื่องราวการท่องเที่ยวจากทางบ้านด้วย เพราะทุกคนตั้งใจให้ที่แห่งนี้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทัศนคติ การเดินทาง และการเลี้ยงลูก ให้ไปด้วยกันได้แบบสนุกสนาน
Facebook: เลี้ยงลูกรอบโลก

3. คุณพ่อโก้—พงศกร สายเพ็ชร์
ผู้ก่อตั้งเพจ วิทย์พ่อโก้

ขอขอบคุณภาพจากเพจ วิทย์พ่อโก้

“วิทยาศาสตร์มันสอนให้เด็กๆ รู้จักกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ อยากรู้อยากเห็นโดยมีทัศนคติที่ดี มีตรรกะการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล ผมเลยอยากทำให้เด็กๆ สนใจ

วิธีก็คือ ผมเล่นกับลูกๆ ด้วยความสนุก แต่แทรกหลักการทางวิทยาศาสตร์ไว้ แล้วพวกเขาจะค่อยๆ ซึมซับมัน ชอบมัน จากนั้นผมก็เริ่มแลกเปลี่ยน ไปสอนวิทยาศาสตร์สนุกๆ ให้กับลูกของเพื่อนๆ จนกลายมาเป็นคลิปแรก คอปเตอร์กระดาษมีปีก ที่จะค่อยๆ ลอยหมุนตกลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง”

เพจ วิทย์พ่อโก้ เป็นบันทึกกิจกรรมและข่าวคราวทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ โดยนักผลิตซอฟต์แวร์ที่เป็นอาสาสมัครรับงานสอนวิทยาศาสตร์ไปด้วย
ปัจจุบันพ่อโก้มี ช่องทางยูทูบ และ เว็บไซต์ ให้คุณพ่อคุณแม่ไปเรียนรู้หลักการสอน แล้วนำไปปรับใช้กับลูกๆ ของตัวเองได้ด้วย แต่ยังไม่พอแค่นี้ เพราะพ่อโก้ยังจัดกิจกรรม ‘วิทย์วันอังคาร’ ให้กับกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม สอนประถมต้นและประถมปลาย (คนนอกสามารถเข้าร่วมได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่อาจต้องติดต่อจองก่อนที่ บ้านปฐมธรรม เพราะที่นั่งมีจำกัด) ช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กชั้นอนุบาลสาม ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิ
Facebook: วิทย์พ่อโก้

4. คุณหมอวิน—ผศ. นพ. วรวุฒิ เชยประเสริฐ
คุณหมอเจ้าของเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ

ขอขอบคุณภาพจากเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ

“เริ่มจากที่เราเคยเป็นอาจารย์แพทย์มาก่อน แต่พอมีลูกแล้วต้องมาดูแลเขาในสถานะของคุณพ่อ มันทำให้เราคิดว่าขนาดเราเป็นหมอ บางคำแนะนำทางการแพทย์มันยังไม่สามารถปฏิบัติจริงได้เลย ประกอบกับตอนนั้นผมเลือกที่จะหมดหน้าที่ของอาจารย์แพทย์ เพื่อจะได้มีเวลากลับมาอยู่ดูแลลูกที่กรุงเทพฯ มากขึ้น แต่ก็ยังไม่อยากทิ้งคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเผชิญปัญหาในการเลี้ยงดูลูกๆ ก็เลยคิดว่าความรู้ของเราน่าจะทำประโยชน์ให้สังคมได้มากกว่านี้ ผมเลยสร้างเพจขึ้นมา แต่จะลงเนื้อหาวิชาการสลับกับเรื่องทั่วๆ ไป ให้อ่านสนุกด้วยการพูดคุยที่เป็นกันเอง สบายๆ แล้ววิธีนี้ละที่จะเข้าถึงใจคนได้ง่ายกว่า”

เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ เพจของคุณหมอที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี 2017 นี้ เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพเด็กและการดูแลลูกที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องยา เรื่องจิตใจ ที่เป็นความจริงตามหลักการแพทย์ ณ ปัจจุบัน แต่ใช้การอธิบายที่เข้าใจง่าย อ่านสนุก ทำให้เรื่องเครียดๆ กลายเป็นเรื่องเฮฮา แบบมีสาระ จึงเข้าถึงคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ได้ง่าย
Facebook: เลี้ยงลูกตามใจหมอ

5. คุณหมอตั้ม—นพ. อัศวิน นาคพงศ์พันธุ์
คุณหมอเจ้าของเพจ เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

ขอขอบคุณภาพจากเพจ เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

“เริ่มจากเราดูแลคนไข้มานาน ก็จะเห็นรูปแบบการเลี้ยงดูว่า ถ้าเลี้ยงลูกแบบนี้ เขามีโอกาสจะโตขึ้นไปเป็นคนแบบไหน จนมีชุดความรู้อยู่ในระดับหนึ่ง ก็เลยคิดว่าอยากจะแชร์ แล้วพอมีลูกเอง เราก็เข้าใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น เพราะในฐานะคนเป็นพ่อเป็นแม่นะ บางเรื่องที่คุณหมอแนะนำมา บางบ้านก็ทำได้ บางบ้านก็อาจทำไม่ได้ เพราะมันมีปัจจัยอื่นอยู่อีก เราก็รู้จักปล่อยวางมากขึ้น หาวิธีการอื่นๆ เพื่อแนะนำคุณพ่อคุณแม่ในการเลี้ยงลูกได้ตรงจุดมากขึ้น การมีลูกเลยถือเป็นการเรียนรู้สองทาง และจากสถานการณ์จริงเลย เพราะลูกทำให้เราได้เรียนรู้ด้วย”

เพจ เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ ต้องการสื่อสารกับสังคมและผู้ปกครอง เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กๆ เติบโตไปเป็นคนที่มีสุขภาพจิตปกติ สามารถพัฒนาตัวเองได้เต็มศักยภาพ มีความสุขและพอใจกับตัวเองจากหัวใจ โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร และต้องไม่เบียดเบียนความรู้สึกของตัวเอง โดยมีคุณหมอก้อยและคุณหมอตั้ม คู่สามีภรรยาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นสองคนเป็นผู้ร่วมกันก่อตั้ง
ปัจจุบันทั้งคู่กำลังดูแลลูกของตัวเองและคนไข้อีกหลายร้อยราย และแชร์เรื่องราวต่างๆ ลงบนเพจให้ทุกคนได้อ่านและเข้าใจเด็กๆ มากขึ้น และยังมีหนังสือชื่อเดียวกันกับเพจ ‘เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ’ อีกด้วย
Facebook: เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

Avatar

สาวยุค 90's ลูกครึ่งจีนฮ่องกง feat. เชียงใหม่ ที่พูดฮ่องกงไม่ได้ อู้กำเมืองบ่จ้าง ติดนิยาย รักการจดบันทึกและการกินเหนือทุกสิ่งอย่าง มีลูกสาวเป็นหมาอ้วนสีเหลืองอ่อน

RELATED POST