คุณแม่หลายๆ ท่านคงกำลังเผชิญกับปัญหาเจ้าตัวแสบในวัย 2-3 ขวบ มีอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และหวงของ กลัวคนอื่นจะมาแย่ง ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อโดนขัดใจจะกรีดร้องเสียงดัง และลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้น อาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการผิดปกติแต่อย่างใด เพราะมันคือช่วงวัยของลูก ที่ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะ terrible twos

วิธีรับมือกับลูกเมื่ออยู่ในบ้าน

เมื่อลูกโดนขัดใจเมื่ออยู่ที่บ้าน เช่น ลูกร้องให้อุ้ม แต่คุณแม่กำลังยุ่งและไม่สามารถอุ้มลูกได้ ลูกจะแสดงอาการไม่พอใจทันที โดยการขว้างปาข้าวของ ลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้น หรือแสดงอาการใดๆ ก็แล้วแต่ ที่พร้อมจะป่วนประสาทของคุณแม่

วิธีรับมือขั้นแรก ลงโทษให้ลูกรู้ว่า สิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ผิด โดยการจับแยกลูกออกจากทุกคน แล้วให้หันหน้าเข้ากำแพง หรือการไทม์เอาต์

วิธีรับมือขั้นที่สอง เมื่อลงโทษลูกแล้ว ให้คุยกับลูกด้วยเหตุผล ว่าทำไมแม่ถึงต้องลงโทษลูก ที่สำคัญคือต้องใจเย็น อย่าไปออกคำสั่งหรือดุด่า เพราะการใช้อารมณ์กับเด็กวัยนี้ จะยิ่งทำให้ลูกต่อต้านมากยิ่งขึ้น

วิธีรับมือกับลูกเมื่ออยู่นอกบ้าน

ออกไปนอกบ้านทีไรมีปัญหากันทุกที ยิ่งเดินผ่านโซนของเล่นแต่ละที เหมือนพายุถล่มแผ่นดินสะเทือน แต่ที่สะเทือนที่สุดน่าจะเป็นใจของคุณแม่ เพราะลูกอยากจะได้ของเล่นจนกรีดร้องดังไปทั่วทั้งห้าง แค่นั้นไม่พอ ยังชักดิ้นชักงอจะเอาของเล่นให้ได้ คุณแม่อายก็อาย แต่ก็ไม่อยากตามใจ

วิธีรับมือขั้นแรก เบี่ยงเบนความสนใจของลูก เช่น พูดว่า “ไหนใครอยากกินของอร่อยยกมือขึ้น” หรือ “คนไหนดื้อกลับบ้านดีไหม”

วิธีรับมือขั้นที่สอง หากลูกยังไม่ยอม และยังจะเอาของเล่นให้ได้ คุณแม่ต้องใจแข็งเข้าไว้ค่ะ ตัดใจเดินหนีออกมาเลย ปล่อยให้ลูกร้องไห้โวยวายไป แล้วลูกจะรู้เองว่าสิ่งที่เขาทำไปไม่ได้อะไร แต่ถ้าคุณแม่ใจอ่อนและยอมซื้อของเล่นให้ ลูกจะเข้าใจว่าสิ่งที่ลูกทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะทำไปแล้วได้ผล

วิธีรับมือขั้นที่สาม หลังจากนั้น ให้คุยกับลูกด้วยเหตุผล ว่าทำไมแม่ถึงเดินหนีออกมา โดยคุณแม่ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาดค่ะ

เทคนิคปราบเจ้าตัวแสบให้อยู่หมัด

1. ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และออกไปเที่ยวด้วยกัน จะทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้น เมื่อลูกเกิดภาวะ terrible twos แล้วคุณแม่และลูกจะปรับตัวเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ลูกจะฟังเหตุผลของคุณแม่มากขึ้น และลดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว

2. เสนอตัวเลือกให้กับลูก

เช่น “ใส่ถุงเท้าสีขาวหรือสีดำดีคะ” หรือ “ให้เลือกของเล่นมาหนึ่งชิ้น ลูกอยากได้หุ่นยนต์ รถบังคับ หรือสมุดระบายสีดีคะ”

การที่คุณแม่เสนอทางเลือกให้ลูก เพื่อให้ลูกปฏิเสธน้อยที่สุด และที่สำคัญลูกจะรู้สึกว่ามีความสำคัญ เพราะสามารถเลือกสิ่งต่างๆ ได้เอง โดยเราสามารถเพิ่มจำนวนทางเลือกตามอายุของลูก เช่น ลูกสองขวบ เสนอให้สองทางเลือก เมื่อลูกสามขวบ เสนอให้สามทางเลือก แต่เพื่อไม่ให้เด็กสับสน ก็ไม่ควรเกินสามทางเลือกนะคะ

3. คุณแม่ควร ‘Say Yes’ กับลูก

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกขอให้คุณแม่ทำให้ แต่คุณแม่พูดว่า ‘ไม่’ เพราะส่วนใหญ่เกิดจากความขี้เกียจหรือรำคาญ เช่น ลูกขอให้เล่านิทานให้ฟัง แต่คุณแม่ปฏิเสธ เมื่อลูกฟังบ่อยๆ ก็จะทำให้ลูกชิน

ในทางกลับกัน ถ้าคุณแม่พูดว่า ‘ได้’ บ่อยๆ เมื่อใดก็ตามที่พูดว่า ‘ไม่’ ลูกจะเชื่อฟังจนน่าตกใจ เป็นเพราะเราไม่ค่อยปฏิเสธลูก พอลูกได้ยินเราปฏิเสธ เขาก็จะเชื่อฟังและทำตาม ก็เหมือนกับเราที่เวลามีใครสักคนตามใจเรามากๆ แต่ถ้าวันหนึ่งเขาปฏิเสธเราขึ้นมา เราก็จะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ และต้องทำตาม

การเลี้ยงลูกวัย 2-3 ขวบนั้นถึงจะยาก แต่ถ้าคุณแม่ใช้เหตุผล ความเข้าใจ ใจเย็น และใช้เวลาร่วมกับลูกแล้ว ทั้งคุณแม่และคุณลูกจะผ่านวัยนี้ไปด้วยกันอย่างมีความสุขค่ะ

อ้างอิง
แม่รักลูก
Pim and Children