เมื่อพูดถึงนกอินทรี หลายคนคงนึกถึงสัตว์ปีกนักล่าที่สง่างาม แข็งแรง และบินสูงอยู่บนฟากฟ้า
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ วิธีการ เลี้ยงลูกแบบนกอินทรี ที่เป็นที่มาของแนวทางการเลี้ยงลูก Eagle Parenting ซึ่งหมายถึงการเลี้ยงดูที่ผสมผสานระหว่างความเข้มแข็ง ความอ่อนโยน และการสนับสนุนอย่างมีเป้าหมาย เพื่อให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเติบโตและโบยบินด้วยปีกที่แข็งแรงของตัวเองในที่สุด
พ่อแม่ที่ เลี้ยงลูกแบบนกอินทรี จะไม่ปล่อยปละละเลย และไม่กดดันลูกจนเกินไป แต่คือการผสมผสานระหว่างความรัก ความไว้วางใจ และความกล้าที่จะปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ เผชิญปัญหา และเป็นเจ้าของชีวิตของตัวเองเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบ Eagle Parenting มักจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่กล้าเผชิญกับความยากลำบาก รู้คุณค่าของตัวเอง และใช้ชีวิตอย่างอิสระตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก
แล้วคุณพ่อคุณแม่จะนำเทคนิคจากการเลี้ยงลูกแบบนกอินทรีไปปรับใช้ในครอบครัวของตัวเองได้อย่างไรบ้าง เรามีแนวทางที่สำคัญจากการเป็น Eagle Parenting มาบอกค่ะ
1. พ่อแม่คอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ไม่เข้าไปแทรกแซงโดยไม่จำเป็น

เวลาออกบิน นกอินทรีจะจับตามองและคอยสังเกตรังของตัวเอง พ่อแม่นกอินทรีจะรู้ว่าลูกนกแต่ละตัวแข็งแรงแค่ไหน พร้อมที่จะออกบินด้วยตัวเองหรือยัง และรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ลูกอ่อนแอจนต้องรีบให้ความช่วยเหลือ
สิ่งที่พ่อแม่อย่างเราเรียนรู้ได้จากพฤติกรรมนี้ก็คือ การคอยเฝ้าดูลูกอยู่และพร้อมที่จะสนับสนุน ช่วยเหลือ โดยไม่เข้าไปควบคุมหรือกดดันการใช้ชีวิตของลูก
ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกกำลังพยายามผูกเชือกรองเท้าเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ แต่รอดูอยู่ใกล้ๆ ให้ลูกรู้ว่ามีพ่อแม่คอยใส่ใจความพยายามของลูกอยู่เสมอ และจะให้ความช่วยเหลือเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น
2. พ่อแม่สร้างรังที่ปลอดภัย แต่ไม่จำเป็นต้องสะดวกสบายเกินไป

รังของนกอินทรีอาจไม่ใช่ที่นอนนุ่มสบายเหมือนหมอนใบใหญ่ แต่ก็เป็นรังที่แข็งแรงอบอุ่นพอให้ลูกๆ เติบโตได้อย่างปลอดภัย แต่ความไม่สะดวกสบายเกินไปนี่แหละที่จะกระตุ้นให้ลูกนกอินทรีอยากออกจากรังไปหาประสบการณ์จากโลกภายนอก
โลกของลูกก็เช่นเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความรัก ความเข้าใจ และความปลอดภัยให้เขา แต่ต้องไม่ทำให้ลูกสะดวกสบายเกินไปจนไม่มีความพยายามและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาตัวเอง
3. พ่อแม่กล้าที่จะผลักดันเมื่อลูกพร้อม แม้ลูกจะยังกลัวอยู่บ้าง

ในธรรมชาติ เมื่อลูกนกอินทรีโตถึงวัยหนึ่ง แม่นกจะผลักลูกออกจากรังเพื่อให้ลูกเริ่มหัดบิน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการมอบอิสรภาพและเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกอย่างแท้จริง
ในชีวิตจริง คุณพ่อคุณแม่อาจพบว่าลูกยังลังเลหรือกล้าๆ กลัวๆ เมื่อต้องเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น การไปโรงเรียนวันแรก การพูดหน้าชั้นเรียน พ่อแม่แบบนกอินทรีจะไม่รีบเข้าไปปิดกั้นความกลัวของลูก แต่จะคอยให้กำลังใจ ส่งเสริม และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ต่อไป
4. ยอมรับว่าการตกหล่นและความล้มเหลวคือครูที่ดีที่สุด

ลูกนกอินทรีที่กำลังหัดบิน อาจร่วงหล่นลงพื้นหลายต่อหลายครั้ง โดยที่แม่นกอินทรีก็ปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้จากความผิดพลาดล้มเหลว แล้วกลับขึ้นมากางปีกบินด้วยตัวเองอีกครั้ง ตัวอย่างในชีวิตจริงก็คือ เมื่อลูกทำผิดพลาดหรือล้มเหลว คุณพ่อคุณแม่จะไม่รับตำหนิ ตัดสิน หรือแม้แต่รีบเข้าไปช่วยแก้ปัญหา แต่จะคอยอยู่ข้างๆ เพื่อให้กำลังใจ และชวนให้ลูกมองหาสิ่งที่เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นต่อไป
5. ปลูกฝังวิสัยทัศน์กว้างไกล

นกอินทรีมีสายตาที่แหลมคม ว่องไว สามารถมองเห็นเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปได้มากกว่าสัตว์อีกหลายชนิด เช่นเดียวกับพ่อแม่แบบอินทรีที่จะสอนให้ลูกรู้จักคาดการณ์ มองเห็นภาพใหญ่ของชีวิต และเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ยังเล็ก
COMMENTS ARE OFF THIS POST