ถ้าให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายคำว่า ลูกในอุดมคติ หรือลูกในฝันของพ่อแม่ทุกคน ก็คงจะต้องมีคุณสมบัติ เช่น ไม่ดื้อ ไม่ซน เชื่อฟังพ่อแม่ ว่านอนสอนง่าย อยู่ในรายการของสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ปรารถนา แต่ความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถเลือกให้ลูกมีแต่นิสัยหรือพฤติกรรมอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการได้ เพราะสิ่งที่แตกต่างของแต่ละครอบครัวก็คือเทคนิคการเลี้ยงดูลูกที่ต่างกัน ย่อมส่งผลให้ลักษณะนิสัยของลูกแต่ละครอบครัวแตกต่างกันไปด้วย
แต่ถ้าหากลองเข้าไปนั่งในหัวใจของเด็กๆ เพื่อสังเกตการณ์ว่า แล้วคุณพ่อคุณแม่ในฝันของพวกเขาเป็นอย่างไร เราน่าจะได้คำตอบออกมาแบบนี้ค่ะ
1. พ่อแม่ที่พูดคุยและรับฟังลูกเสมอ
ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ต้องการผู้ฟังที่ดี แต่เด็กเองก็ต้องการให้พ่อแม่ที่พร้อมจะเป็นที่ปรึกษา พูดคุย และรับฟังเขาได้เสมอ
2. พ่อแม่ที่แสดงความรักให้ลูกรับรู้บ่อยๆ
การแสดงออกด้วยความรักกับลูกไม่ว่าจะเป็นการบอกรักหรือโอบกอดจะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย และยังช่วยให้ลูกมั่นใจได้ว่าตัวเองมีคุณค่าและเป็นที่รักของคุณพ่อคุณแม่เสมอ
3. พ่อแม่ที่ชื่นชมเมื่อลูกทำดี
พ่อแม่บางคนเข้าใจว่าการเอ่ยปากชมลูกจะทำให้ลูกเคยตัวและหลงตัวเองได้ แต่ความจริงแล้วการเอ่ยปากชื่นชมเมื่อลูกทำดีหรือสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ จะทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจและมีกำลังใจในการทำสิ่งนั้นต่อไปอีก
งานวิจัยจาก Social Psychological and Personality Science ทำการสำรวจเด็กชาวเกาหลีใต้ พบว่า ครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ไม่กล่าวชื่นชมลูก มีโอกาสทำให้เด็กเกิดภาวะซึมเศร้าได้มากกว่าเด็กที่ได้รับคำชมจากคุณพ่อคุณแม่อย่างสม่ำเสมออีกด้วย
4. พ่อแม่ที่ส่งเสริมลูกให้ทำในสิ่งที่ชอบ
การบังคับหรือผลักดันให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกไม่ถนัดหรือไม่ชื่นชอบ เด็กก็จะทำสิ่งนั้นโดยไม่มีแรงบันดาลใจ และอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจของคุณพ่อคุณแม่ ส่งผลทำให้ลูกรู้สึกล้มเหลว และการที่ลูกได้รับความรู้สึกของการเป็นเด็กที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จบ่อยๆ จะส่งผลต่อภาวะทางจิตใจในระยะยาวได้
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรใช้เวลาและให้โอกาสลูกได้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และค่อยหาทางสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกได้ทำในสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าค่ะ
5. พ่อเเม่ที่ใช้เวลากับลูกอย่างมีคุณภาพ
เพราะทุกนาทีที่คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาร่วมกับลูก คือช่วงเวลาที่ลูกจะได้เรียนรู้ ดังนั้น การใช้เวลาจึงไม่ได้หมายถึงการนั่งอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ควรเป็นการใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีคุณภาพ (Quality Time) ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำร่วมกับลูกได้โดยไม่ยอมให้มีอะไรมาขัดจังหวะหรือเบี่ยงเบนความสนใจไปจากลูกได้ เพื่อให้ลูกรู้สึกได้รับช่วงเวลาที่ดีที่สุดเมื่ออยู่กับคุณพ่อคุณแม่เสมอ
COMMENTS ARE OFF THIS POST