การตั้งคำถามเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในวงกว้าง เพราะผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่มีให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคำถามในใจว่า เราจะช่วยกันรักษาโลกใบนี้ไว้ให้คนรุ่นต่อไปมีอนาคตที่ดีได้อย่างไร
ในขณะที่เราพูดถึงวิธีการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืนผ่านการเลือกบริโภคและการใช้ชีวิตแบบลดการใช้ทรัพยากร คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเลี้ยงลูกในแนวทาง Eco Parenting หรือการเลี้ยงลูกอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีต่อโลกให้กับลูก ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นชีวิตบางคนอาจรู้สึกว่าแนวคิดนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นผลสำเร็จได้ยาก
แต่จริงๆ แล้ว Eco Parenting ไม่ใช่การเลี้ยงลูกเพื่อให้ลูกต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโลกในทันที แต่เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกและเติบโตอย่างคนที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของตัวเองต่อไป ก็เพียงพอแล้ว
1. เลือกของใช้ให้ลูกอย่างมีสติ (Less is more)

คุณพ่อคุณแม่มักให้สิทธิพิเศษในการเลือกซื้อของใช้ให้ลูก ด้วยเหตุผลทางอารมณ์ เช่น ซื้อเพราะความน่ารัก ซื้อเพราะคิดว่าเกินดีกว่าขาด ซื้อเพราะความสะดวกสบาย ซื้อเพราะความรักที่มีต่อลูก นั่นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เผลอซื้อของให้ลูกมากเกินจำเป็น และเมื่อลูกโตขึ้นของต่างๆ ก็มักกลายเป็นขยะในเวลาไม่นาน แต่หากคุณพ่อคุณแม่ใช้สติทบทวนถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่ได้จากสิ่งของเหล่านั้นอีกครั้ง หรือลองเปลี่ยนมาเลือกใช้ของที่มีอายุการใช้งานนาน ใช้ซ้ำได้ เช่น ผ้าอ้อมผ้า แก้วน้ำสแตนเลส ของเล่นไม้ปลอดสาร BPA หรือลองนึกถึงการส่งต่อและรับต่อเป็นอีกทางเลือกก็ยังได้
2. พาลูกออกไปอยู่กับธรรมชาติเป็นประจำ

เด็กที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ต้นไม้ ลม แสงแดด และดินทราย มักมีสุขภาพจิตที่ดี มีจินตนาการ และเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากกว่าเด็กที่อยู่แต่ในบ้านหรือหน้าจอ การเดินเล่นในสวน ปลูกต้นไม้ริมระเบียง หรือเก็บขยะริมชายหาด นอกจากนี้ การพาลูกออกไปสัมผัสธรรมชาติ ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อธรรมชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ แทนที่จะซื้อของเล่นใหม่ให้ลูกทุกเดือน ลองเปลี่ยนเป็นพาลูกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยตัวเอง เช่น พาไปเดินป่า ให้ลูกได้เล่นสนุกแม้จะเลอะเทอะไปบ้าง เพราะประสบการณ์เหล่านี้จะกลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่ลูกมีต่อธรรมชาติรอบตัวของเขานั่นเอง
3. สอนเรื่องการแยกขยะและการรีไซเคิลแบบเข้าใจง่าย

การจัดการขยะในชีวิตประจำวัน กำลังเป็นปัญหาสำคัญของโลก การสอนให้ลูกเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะจะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับการใช้สอยสิ่งของ การทิ้งขยะ การรีไซเคิล และการนำกลับไปใช้ใหม่ได้เป็นอย่างดี
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มสอนลูกได้ง่ายๆ เช่น สอนให้ลูกแยกเศษอาหาร กระดาษ พลาสติก แล้วทิ้งให้ถูกที่ หรือให้ลูกมีถังขยะของตัวเองที่ต้องจัดการเททิ้งด้วยตัวเองทุกวัน ลูกจะรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในบ้านและมีส่วนช่วยให้โลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
4. ปลูกจิตสำนึกโดยไม่ต้องบังคับ

หัวใจของการเลี้ยงลูกอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่การบังคับให้ลูกต้องทำอะไรที่ยากลำบาก แต่คือการที่คุณพ่อคุณแม่ทำตัวเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นความรักและความใส่ใจที่มีต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ในบ้าน เช่น การปิดไฟเมื่อไม่ใช้ ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ การใช้ถุงผ้าเวลาไปซื้อของ หรือการปลูกต้นไม้หน้าบ้าน เพื่อให้ลูกรู้ถึงหน้าที่รับผิดชอบที่มนุษย์ทุกคนควรมีต่อโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ร่วมกันต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST