READING

ลูกตัวร้อน เหมือนมีจะไข้ แม่ให้กินยาดักไว้ได้ผลจริ...

ลูกตัวร้อน เหมือนมีจะไข้ แม่ให้กินยาดักไว้ได้ผลจริงเหรอ?

ลูกตัวร้อน

อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกแบบช่วงนี้ ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังมีโอกาสเจ็บป่วยและเป็นไข้หวัดได้ง่ายๆ

แล้วพอคุณพ่อคุณแม่เห็นว่า ลูกตัวร้อน มีอาการไม่สบายตัว ก็คงจะรีบไปหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิมาตรวจวัดว่าลูกมีไข้จริงหรือเปล่าและอาจมีบางครั้งที่ ลูกตัวร้อน เล็กน้อย แต่ยังไม่มีอาการเป็นไข้ คุณพ่อคุณแม่คงจะเคยได้ยินคำแนะนำจากคนรุ่นก่อนว่าสามารถให้ลูกกินยาดักเอาไว้ก่อน

แต่ความจริงแล้ว การกินยาดักเมื่อลูกตัวร้อน จะช่วยป้องกันการเป็นไข้หวัดได้จริงหรือไป และถ้าไม่ได้ผล การให้ลูกกินยาลดไข้โดยที่ไม่ได้เป็นไข้ได้จริงหรือเปล่า เราชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจเรื่องนี้ไปด้วยกันค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้วิธีวัดไข้ที่แม่นยำ

fevers_web_1

Melanie Pitone, MD, กุมารเวชศาสตร์และเวชศาสตร์ฉุกเฉินในเด็ก ระบุว่า การวัดอุณหภูมิที่แม่นยำที่ต้องวัดจากอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย นั่นก็คือ ใต้ลิ้น ทวารหนัก หรือใต้รักแร้ ส่วนบริเวณหน้าผาก อาจไม่ตรงตามจริง

สำหรับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป แบบอมใต้ลิ้นจะแม่นยำมากที่สุด คุณหมอแนะนำว่า การวัดไข้แบบอมใต้ลิ้น เพื่อรู้ค่าของอาการไข้ และควรวัดไข้หลังมื้ออาหารประมาณ 20-30 นาที ไม่ควรวัดไข้ลูกหลังอาบน้ำ หรือตอนที่ลูกอยู่ใต้ผ้าห่ม โดยให้ลูกอมเครื่องวัดไว้ใต้ลิ้นประมาณหนึ่งนาที และหายใจทางจมูกตามปกติ แล้วรอจนกว่าสัญญาณจะเตือนดังขึ้นในครั้งที่สอง ก็จะได้ค่าที่แน่นอน

แต่ถ้าลูกไม่ยอมให้ความร่วมมือ ให้เปลี่ยนไปใช้วิธีหนีบไว้ใต้รักแร้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 9 นาที หรือใช้เครื่องวัดอุณหภูมิทางหูแบบดิจิทัลก็จะเป็นการวัดคลื่นความร้อนจากแก้วหู ก็ได้เช่นกัน

2. ลูกตัวร้อน กินยาลดไข้เลยดีมั้ย

fevers_web_2

Erin Frank, MD กุมารแพทย์ที่ Rainbow Babies & Children’s Hospital ระบุว่า การที่เด็กเป็นไข้ เป็นเพราะร่างกายของเด็กๆ กำลังตอบสนองต่อการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียอยู่ และกำลังต่อสู้กันอยู่

บางครั้งการที่ลูกตัวร้อน ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกกำลังมีไข้เสมอไป หากอาการโดยรวมยังปกติ ให้ลูกดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยบรรเทาอาการตัวร้อนลงได้โดยทั่วไปอุณหภูมิร่างกายของเด็กเฉลี่ยจะอยู่ที่ 35.4 – 37.4 องศาเซลเซียส สิ่งที่บ่งชี้ว่า ลูกไข้ขึ้นคือ มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส บางครั้งเมื่อลูกตัวร้อน แต่ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย สามารถกินอาหารได้ และร่าเริงตามปกติ ก็ให้ลูกพัก และดื่มน้ำเยอะๆ ก็จะช่วยบรรเทาลงได้ โดยไม่ต้องให้ยาลดไข้กับลูก

3. เมื่อลูกไข้ขึ้น ยาลดไข้ช่วยได้

fevers_web_3

ไข้ต่ำ หมายถึงวัดอุณหภูมิได้ระหว่าง 37.5-38.4 องศาเซลเซียส คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลดความร้อน ด้วยการให้ลูกดื่มน้ำให้เพียงพอ เช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ประมาณ 15-20 นาที อย่าลืมปิดเครื่องปรับอากาศด้วยนะคะ

ที่สำคัญควรเน้นที่บริเวณข้อพับต่างๆ แต่หากลูกเริ่มตัวสั่นเพราะหนาวให้หยุดเช็ดตัวทันที ระหว่างนี้ให้ลูกสวมเสื้อผ้าโปร่งๆ และไม่ต้องห่มผ้า เพื่อให้ความร้อนระบาย

ไข้สูง หมายถึงวัดอุณหภูมิได้มากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส ให้ยาลดไข้อย่าง พาราเซตตามอล 120 หรือ 250 มิลลิกรัม โดยให้ตามขนาดที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของลูก และให้ลูกทุกๆ 4-6 ชั่วโมงเท่านั้น ร่วมกับการเช็ดตัว แต่หากมีไข้เกิน 48-72 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น ลูกซึมลง ไม่กินข้าว ไม่เล่น หรือมีอาการอื่นๆ แทรกซ้อน ควรพาลูกไปโรงพยาบาลทันที

ยาลดไข้ จะออกฤทธิ์ภายใน 4-6 ชั่วโมงต่อครั้ง ดังนั้นเมื่อลูกกินยาลดไข้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการในระยะเวลาที่ฤทธิ์ยาทำงาน พอหมดฤทธิ์ก็ไข้กลับ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ยาลดไข้กับลูกได้ตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด

ห้ามให้ยาเอสไพริน เพราะอาจทำให้ลูกปวดท้อง เลือดออกในช่องท้อง หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรย์ (Reye’s Syndrome)ทำให้สมองและตับถูกทำลายได้

4. ลูกตัวร้อน กินยาดักไว้ ป้องกันไข้ขึ้น = ไม่จริง

fevers_web_4

หลักการทำงานของยาลดไข้ คือช่วยบรรเทาอาการเมื่อมีไข้แล้ว การกินยาดักไข้ไว้ก่อนโดยไม่รู้ว่าจะมีไข้จริงหรือไม่ จึงไม่ได้ช่วยป้องกันลูกจากการเป็นไข้ และยังไม่ควรทำ เพราะหากร่างกายไม่ได้มีไข้จริง การกินยาไปก่อนอาจได้รับผลข้างเคียง เช่น ยาพาราเซตามอลจะมีผลต่อตับหรือมีปัญหาตับอักเสบได้

 

ลูกเป็นไข้ : กลางคืนตัวร้อนจี๋ กลางวันปกติดี เอ๊ะยังไง?
อ้างอิง
uhhospitals.org
kidshealth.org.
si.mahidol.ac.th

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST