จากสถานการณ์ น้ำท่วม หนักหลายจังหวัดในประเทศ ส่งผลให้เด็กๆ ได้เห็นภาพความเดือดร้อนเสียหายของผู้คนตามสื่อโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย

สำหรับเด็กเล็กส่วนมาก อาจไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ น้ำท่วม ในระดับมหาอุทกภัยที่ส่งผลกระทบรุนแรงกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนขนาดนี้มาก่อนดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรใช้สถานการณ์ น้ำท่วม ครั้งนี้ สอนให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ การรับมือ และการปลูกฝังทักษะชีวิตที่จำเป็นและสำคัญให้กับลูก เพื่อให้ลูกมีความตระหนักถึงความรุนแรงของภัยธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ลูกได้รับรู้ถึงความยากลำบากของผู้ประสบภัย และแนวทางการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ลูกมีความเข้าใจและสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในอนาคต

1. การเตรียมความพร้อมเป็นเรื่องสำคัญ

ภัยธรรมชาติมักเกิดขึ้นกับมนุษย์โดยไม่มีการส่งสัญญาณล่วงหน้า และมักรุนแรงกว่าที่คิดหรือคาดการได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเห็นความสำคัญของการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น การรู้ตำแหน่งที่ปลอดภัยภายในบ้าน หรือสถานที่ที่ต้องไป เมื่ออยู่ในบ้านไม่ได้ การจัดเตรียมอุปกรณ์ดำรงชีวิตที่จำเป็น เช่น อาหารและน้ำดื่ม รวมถึงการสอนให้ลูกมีสติ รอบคอบเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

2. ปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจให้ผู้อื่น

คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ช่วงเวลานี้สอนให้ลูกเห็นคุณค่าของการช่วยเหลือผู้อื่นในยามยากลำบาก เช่น ชื่นชมการทำงานของกลุ่มอาสาและกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้ลูกฟัง ชวนลูกช่วยกันจัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน สอนเรื่องการจัดสรรและแบ่งปันทรัพยากรที่จำเป็นในช่วงเวลาคับขัน และการเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับผู้อื่น

3. เสริมสร้างความยืดหยุ่นทางอารมณ์

คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกข่าวสารด้านบวกที่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกเครียดหรือหวาดกลัวเกินไป เช่น ความยินดีของชาวบ้าน เมื่อสามารถช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยได้ ความร่วมแรงร่วมใจระหว่างผู้ประสบภัย และสอนลูกเรียนรู้ตัวอย่างที่ดีในการรับมือกับความยากลำบากและความเครียด เมื่อเกิดอุปสรรคและปัญหาที่ไม่คาดคิดการเผชิญหน้าอย่างมีสติจะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ นอกจากนั้น จิตใจที่ความเข้มแข็งและไม่ย่อท้อ จะเป็นทักษะที่ช่วยให้ลูกผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้

4. สอนความสำคัญของการวางแผน

การวางแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกต้องฝึกฝน และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การวางแผนเลือกเส้นทางสำรอง เมื่อเส้นทางหลักใช้ไม่ได้ การคิดสถานการณ์สมมติว่าหากเกิดขึ้นจริง ลูกจะทำอย่างไร อะไรคือสิ่งสำคัญที่ลูกต้องหยิบติดตัวไปด้วย เพราะการเรียนรู้การวางแผนและจัดการสถานการณ์จะช่วยให้ลูกมีทักษะในการตัดสินใจที่ดี

5. เน้นการปรับตัวและยอมรับความเปลี่ยนแปลง

ในสถานการณ์น้ำท่วม ลูกอาจต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เช่น ออกจากบ้าน อพยพ ย้ายที่อยู่ชั่วคราว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันอาจไม่สะดวกสบายเหมือนเวลาปกติ การสอนให้ลูกเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวเป็นทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้ลูกสามารถเผชิญกับอนาคตได้

สุดท้ายนี้ M.O.M ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้ในเร็ววันนะคะ

อ้างอิง
Thaihealth
Thaipbskids