READING

5 สัญญาณมหัศจรรย์ ลูกเราอาจเป็นเด็กสติปัญญาเลิศ! (...

5 สัญญาณมหัศจรรย์ ลูกเราอาจเป็นเด็กสติปัญญาเลิศ! (Gifted Baby)

gifted baby

สิ่งหนึ่งที่ใช้วัดระดับปัญญาหรือเชาว์ปัญหา ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเรียนรู้ การปรับตัวต่อปัญหา และความสามารถที่จะทำกิจกรรมต่างๆ การเป็นคนสามารถคิดอย่างมีเหตุผล และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ก็คือ IQ หรือ Intelligence Quotient ซึ่งมาจากการวัดโดยการทดสอบทางสติปัญญา แล้วแปลงผลออกมาเป็นค่าตัวเลขที่น่าเชื่อถือ

เราจึงมักได้ยินผู้ใหญ่หลายคนพูดถึงและให้ความสำคัญกับระดับ IQ ของเด็ก หรือชื่นชมเด็กที่เรียนรู้ไว ว่าเป็นเด็กฉลาดและมี IQ สูง ในขณะที่เด็กบางคนก็มีความสามารถทางสติปัญญา และความถนัดเฉพาะทางอยู่ในระดับสูงกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน ก็จะถูกนับเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ หรือกลุ่ม gifted baby

แต่ เอ… นอกจากการทำการทดสอบเพื่อวัดระดับของสติปัญญาอย่างจริงจังแล้ว พ่อแม่อย่างเราก็พอจะสังเกตหรือมองหาสัญญาณว่าลูกมีโอกาสที่จะเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเป็นเลิศจากลูกน้อยของตัวเองได้ ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของลูกดังนี้

1. ลูกมีความจำที่ดี

GiftedBaby_web_1

หากเจ้าตัวน้อยของคุณพ่อคุณแม่ สามารถจะจำสิ่งต่างๆ ที่เคยสอนได้ หรือจำได้แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แม้แต่พ่อแม่ก็ลืมไปแล้ว เช่น จำหน้าตาของตัวเลขได้ จำได้ว่าของชิ้นนี้เก็บไว้ตรงไหน จำได้ว่าสัตว์ชนิดนี้เรียกว่าอะไร จากการบอกเล่าแค่เพียงครั้งเดียว ก็พอจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกมีโอกาสที่จะเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเลิศ เพราะสามารถเรียนรู้สิ่งและจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีและรวดเร็ว

2. ลูกเป็นเด็กตื่นตัวอยู่เสมอ

ตื่นตัว

เด็กหรือทารกที่มีสติปัญญาดี มักจะตื่นตัวอยู่เสมอ สังเกตได้จากการชอบจ้องมองหรือสบตาคนที่กำลังคุยด้วย มีการตอบสนองต่อเสียง เช่นหันหน้าไปตามเสียงทันทีที่ได้ยิน

นอกจากนี้ลูกยังไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนคนอุ้ม หรือพาออกไปข้างนอก ลูกจะรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็วและมีอาการตอบสนองทันที

3. ลูกมีพัฒนาการไวและเห็นได้ชัด

พัฒนาการไว

อีกสัญญาณหนึ่งที่อาจบ่งบอกว่าลูกของคุณพ่อคุณแม่มีสติปัญญาที่ดี ก็คือการที่ลูกมีพัฒนาการรอบด้านไวกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เช่น ลูกสามารถทรงตัวให้ลุกขึ้นยืนได้เองตั้งแต่อายุ 4 เดือน หรือลูกเริ่มจำและเลียนเสียงคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ได้ก่อนอายุหนึ่งขวบ ก็เป็นสัญญาณดีที่พอจะบอกได้ว่าลูกมีโอกาสเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ ที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างเหมาะสมต่อไปค่ะ

4. ลูกมีสมาธิและสามารถจดจ่อได้นาน

มีสมาธิ

ตามปกติแล้วเด็กเล็กมักจะให้ความสนใจหรือมีสมาธิอยู่กับสิ่งต่างๆ ได้ไม่นาน ก็จะวอกแวกต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้ง่าย แต่หากลูกมีความสามารถที่จะจดจ่ออยู่กับของเล่นหรือกิจกรรมตรงหน้าได้เป็นเวลานาน ให้ความสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจริงจัง และไม่หลุดโฟกัสได้ง่ายก็เป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าลูกมีโอกาสเป็นเด็กที่มีสติปัญญาดีเลิศ

5. ลูกไม่ชอบนอน

ไม่ชอบนอน

ข้อนี้อาจจะสร้างความหนักใจให้คุณพ่อคุณแม่ แต่เด็กที่มีสติปัญญาเป็นเลิศมักมีระดับพลังงานสูงกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน จนส่งผลทำให้พวกเขาไม่ต้องการการนอนหลับพักผ่อน เพราะพลังงานที่เหลือล้นในร่างกายยังคงต้องการการปลดปล่อยและระบายออกมา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมนอน หรือนอนได้แค่แป๊บเดียว แต่ถึงอย่างนั้น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็ยังจำเป็นและสำคัญกับเด็กทุกคน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ปล่อยให้ลูกเล่นหรือใช้สติปัญญาของตัวเองจนลืมพักผ่อนนะคะ

อ้างอิง
parenting
walesonline
nymetroparents
verywellfamily

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

COMMENTS ARE OFF THIS POST