ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบไปสาย เมื่อคุณมีนัดหรือไปทำงาน ถ้าคุณไปเร็ว คุณก็จะมีเวลาเดินเล่น หรือแวะจิบกาแฟสักแก้วก่อนเริ่มทำธุระ ในขณะที่ถ้าไปสาย คุณก็จะต้องเร่งรีบกระหืดกระหอบ อารมณ์เสีย และหงุดหงิดกับอะไรก็ตามที่เข้ามาขวางความเร่งรีบของคุณ

และเมื่อคุณมีลูก สิ่งที่เคยเป็นเรื่องง่าย อย่างการออกไปทำธุระนอกบ้าน ก็จะยิ่งกลายเป็นเรื่องยาก ที่คุณต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานขึ้นอีกหลายเท่า เช่น ตอนเป็นทารก คุณก็ต้องเตรียมข้าวของลูกน้อยมากมายไปหมด เรียกว่าออกจากบ้านแต่ละครั้ง กระเป๋าใบเดียวไม่เคยพอ

พอลูกโตขึ้นมาอีกนิด ของที่ต้องจัดเตรียมอาจน้อยลง แต่เจ้าตัววุ่นนี่สิ อยู่ดีๆ อาจไม่พอใจกับสีถุงเท้าที่คุณหยิบมาให้ และก็เริ่มเล่นใหญ่ดราม่าไม่ยอมออกจากบ้าน ทำให้เวลาที่คุณตั้งใจว่าจะได้ออกจากบ้านแล้ว ต้องเลื่อนไปอีก

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากออกไปทำธุระสายกว่าที่ตั้งใจ คุณก็ต้องเริ่มจัดระบบตัวเองและเจ้าตัวแสบด้วย 5 เทคนิคต่อไปนี้

1. กำหนดเวลาตื่นที่แน่นอน

การที่คุณมีเวลาตื่นที่แน่นอน จะทำให้คุณวางแผนกิจวัตรประจำวันได้ เช่น ตอนเช้าต้องทำอะไรบ้าง และแต่ละอย่างต้องใช้เวลาเท่าไร และอย่าลืมเผื่อเวลาไว้ให้ลูกงอแงสักอีกครึ่งชั่วโมง คุณจะได้ไม่ต้องเครียด เพราะจัดการเวลาไม่ทัน

2. วางแผนว่าตอนเช้าต้องทำอะไรบ้าง และทำอย่างสม่ำเสมอ

ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมอาหารให้ลูก ไปอาบน้ำ แต่งตัว ปลุกเจ้าตัวเล็ก จับลูกอาบน้ำ นั่งกินข้าว แล้วก็ออกจากบ้าน คุณคิดไว้เลยว่าเช้าของคุณต้องทำขั้นตอนไหนก่อนหรือหลัง การทำซ้ำๆ แบบนี้ทุกวันจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วขึ้น ว่าตอนเช้าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง และจะเกิดเป็นความเคยชิน จนเขาสามารถรับผิดชอบหน้าที่และจัดการตัวเองได้ในที่สุด

3. ตอนกลางคืน ให้ลิสต์รายการว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไร แวะซื้ออะไร และอย่าลืมหยิบอะไรก่อนออกจากบ้าน

ลิสต์รายการสิ่งที่คุณต้องเตรียมต้องจัดการเอาไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้เช้าอันวุ่นวายของคุณง่ายขึ้น และเครียดน้อยลง ที่สำคัญ มันจะช่วยให้คุณไม่หลงลืมอะไรบางอย่างก่อนออกจากบ้าน

4. เตรียมของให้เสร็จล่วงหน้า

ก่อนเข้านอน คุณอาจแพ็กกระเป๋าไปโรงเรียนลูก จัดเตรียมเสื้อผ้า ทั้งสำหรับคุณและลูก มันจะช่วยให้คุณวุ่นวายน้อยลงในตอนเช้า และออกจากบ้านได้ทันเวลา

5. เตรียมพร้อมออกจากบ้านก่อนเวลาที่ตั้งใจว่าจะออก

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงเวลาที่คุณตั้งใจจะออกจากบ้าน จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ยังไงคุณก็ไม่ไปสาย และยังเป็นการเผื่อเวลาสำหรับเรื่องฉุกเฉินของลูก เช่น ถ้าลูกบอกว่าอยากเข้าห้องน้ำตอนกำลังจะออกจากบ้าน คุณก็ยังมีเวลาพอให้ลูกเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อน

อ้างอิง
Christine Keys