ในปัจจุบันความแตกต่างถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางเพศ เชื้อชาติ รูปร่างหน้าตา หรืออะไรก็ตาม
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเด็กๆ จะมีสัญชาตญาณในการรวมตัวหรือสร้างสังคมกับคนที่มีอะไรคล้ายกัน และเว้นระยะหรือรู้สึกแปลกปลอมกับคนที่ดูแตกต่างออกไป Dr. Silvia Pereira-Smith ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรมที่ Medical University of South Carolina กล่าวว่า เด็กที่อยู่แต่ในสังคมที่มีแต่คนที่เหมือนกันไปหมด จะไม่มีการพัฒนาที่ดีเท่าไรนัก แต่การสอนให้เด็กยอมรับความแตกต่างจะช่วยให้เด็กเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดี ปรับตัวง่าย และมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นอีกด้วย
เราจึงรวบรวมเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยปลูกฝังนิสัยให้ลูกเป็นเด็กที่เข้าใจและยอมรับความแตกต่างได้ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ ในยุคที่ลูกจำเป็นจะต้องมีทักษะในการอยู่กับความแตกต่างในสังคมให้ได้
1. อ่านหนังสือหรือเล่านิทานเพื่อยกตัวอย่างความแตกต่างที่พบเจอได้ในสังคม

หนังสือนิทานยังคงเป็นทั้งคุณครูและผู้ช่วยที่ดีเสมอในการสอนให้ลูกเข้าใจ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้
คุณพ่อคุณแม่สามารถหาหนังสือเกี่ยวกับความแตกต่างด้านต่างๆ ให้ลูกได้อ่าน หรือฟัง ไม่ว่าจะด้านร่างกาย การแสดงออกทางเพศ ฯลฯ ลูกจะค่อยๆ ซึมซับและเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ
2. ทำลายกำแพงของภาษาลง

การสอนให้ลูกเปิดกว้างทางภาษาเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเข้าใจความแตกต่างและหลากหลายของภาษาต่างๆ บนโลก โดยอาจจะเริ่มจากภาษาในสำเนียงท้องถิ่นของคนใกล้ตัว เพื่อให้ลูกรู้ว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับคนที่ภาษาเดียวกันเท่านั้น และหัวใจหลักของภาษาคือการสื่อสารระหว่างผู้คน ดังนั้นหากลูกไม่รู้หรือไม่เข้าใจภาษาของเพื่อน ลองเปิดใจที่จะใช้วิธีอื่นๆ ในการสื่อสาร เช่น ใช้ท่าทางช่วยอธิบาย วาดภาพ รอยยิ้ม หรือสีหน้า ทั้งหมดล้วนเป็นสะพานที่ทำให้คนเราก้าวข้ามความแตกต่างทางภาษาไปได้ทั้งสิ้น
3. สอนลูกให้เข้าอกเข้าใจผู้อื่น

การเข้าใจและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สิ่งสำคัญคือการสอนให้ลูกมองเห็นคุณค่าของคนอื่น โดยคุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นให้เขาลองเป็นฝ่ายได้เข้าไปทำความรู้จักกับเด็กคนอื่นๆ ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่นั่งกินข้าวอยู่ตามลำพัง หรือเด็กที่เพิ่งเข้ามาร่วมชั้นเรียนใหม่ และพูดคุยเกี่ยวกับความประทับใจที่ลูกมีต่อเพื่อน เพื่อให้ลูกรู้จักมองเห็นคุณค่าในตัวคนอื่น
4. พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีอยู่เสมอ

นอกจากการสอนให้ลูกอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้แล้วนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะคำพูด และการแสดงออกของคุณพ่อคุณแม่จะต้องทำให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่นั้นให้น้ำหนักกับความแตกต่างของคนอื่นมากเกินไป เช่น ไม่ชี้ชวนให้ลูกมองคนอ้วนด้วยท่าทางขบขัน หรือปลูกฝังค่านิยมผิดๆ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก เช่น บอกลูกว่าเด็กที่ผิวขาวน่ารักกว่าเด็กผิวดำ แต่สอนให้ลูกมองเห็นคุณค่าของคนอื่นจากการกระทำ หรือนิสัยใจคอเป็นสำคัญ
5. พาลูกทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นอยู่บ่อยๆ

การให้ลูกได้เจอคนอื่นนอกเหนือจากคนที่คุ้นเคยเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะนอกจากจะทำให้เขาไม่รู้สึกแปลกแยกในการเข้าสังคมใหม่ๆ แล้วยังช่วยให้ลูกรู้จักปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดีขึ้นอีกด้วย
COMMENTS ARE OFF THIS POST