การถูกขัดใจ ทำให้ไม่พอใจ หรือไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา เพราะเด็กไม่ยังไม่รู้ว่าจะแสดงหรือรับมือกับความรู้สึกแง่ลบของตัวเองได้อย่างไร
อย่าว่าแต่เด็กๆ เลย ผู้ใหญ่อย่างเรา บางครั้งก็จัดการกับความของตัวเองไม่ได้ ดังนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกโกรธหรือไม่พอใจ แล้วเขาแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ก็อย่าเพิ่งดุหรือลงโทษลูกด้วยวิธีรุนแรง แต่ควรสอนให้ลูกรู้จักวิธีควบคุมอารมณ์และจัดการกับพฤติกรรมตัวเองให้เหมาะสม
เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ละเลย ปล่อยให้ลูกแสดงออกด้วยความก้าวร้าวและไม่เหมาะสม เช่น ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น ทำลายข้าวของ ต่อไปเรื่อยๆ พฤติกรรมเหล่านี้จะกลายเป็นนิสัยติดตัวลูกไปจนโต และจะแก้ไขได้ยาก
ดังนั้น มาดูกันว่าเราจะสอนลูกให้จัดการกับความโกรธของตัวเองอย่างไรโดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรง เพื่อไม่ให้ลูกกลายเป็นเด็กที่มีนิสัยก้าวร้าวและไม่น่ารักไปจนโต
1. คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างของการรับมือกับความโกรธที่ดี
ครอบครัวและสิ่งแวดล้อมเป็นครูที่สำคัญของเด็กๆ เสมอ ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่โกรธแล้วเสียงดังโวยวาย ลงไม้ลงมือ หรือใช้ความรุนแรงให้ลูกเห็น ลูกก็จะจดจำพฤติกรรมนั้นมาใช้
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นคนที่ทำให้ลูกเห็นว่า ไม่ว่าจะโกรธหรือโมโหอย่างไร ก็สามารถควบคุมอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองได้ เช่น เวลาโมโหลูก แทนที่จะใช้วิธีพูดเสียงดังหรือตะคอกเพราะความโกรธ ลองเปลี่ยนเป็นอธิบายให้ลูกฟังว่า ตอนนี้คุณแม่กำลังโมโห ที่ลูกทำตัวไม่น่ารัก แม่จะขออยู่เงียบๆ จนกว่าจะใจเย็นลง แล้วเราค่อยกลับมาคุยกันใหม่ ลูกก็จะเรียนรู้ได้ว่า เมื่อโกรธ ไม่จำเป็นต้องต่อว่าหรือเสียงดังใส่กัน แต่สามารถรอให้ความโกรธลดลงก่อนค่อยกลับมาคุยกันก็ได้
2. แสดงออกว่าเข้าใจและสอนให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง
บางครั้งความโกรธจะรุนแรงมากขึ้น เมื่อลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่มองไม่เห็นหรือเข้าใจความรู้สึกของเขา
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรแสดงออกว่าเข้าใจอารมณ์และความต้องการลูก เช่น แม่เข้าใจว่าลูกโกรธที่ไม่ได้ดูการ์ตูนตอนนี้ นอกจากจะทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจแล้ว ยังเป็นการสะท้อนอารมณ์ให้ลูกเข้าใจตัวเองด้วย
3. สอนลูกว่าเมื่อรู้สึกโกรธ สามารถทำอะไรได้บ้าง
พฤติกรรมก้าวร้าวมักจะเกิดขึ้นเมื่อลูกไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร เช่น เมื่อมีเพื่อนมาแย่งของเล่น ลูกรู้สึกไม่พอใจจึงตีเพื่อน นั่นเป็นเพราะลูกไม่รู้ว่าจะจัดการกับเพื่อนและตัวเองอย่างไร
แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมความพร้อมให้ลูก ก่อนที่จะเจอกับสถานการณ์จริงได้ เช่น ตกลงกับลูกล่วงหน้าว่าถ้าเพื่อนมาแย่งของเล่น เราจะใช้วิธีบอกเพื่อนให้รอลูกเล่นเสร็จก่อนได้ หรือถ้าเพื่อนไม่ฟังและทำให้ลูกโกรธ ลูกจะไม่ตอบโต้ด้วยการตีเพื่อน แต่จะไปบอกคุณครูให้ช่วยตักเตือนเพื่อนได้
รวมทั้งสอนให้ลูกรู้วิธีการสงบสติอารมณ์ด้วยตัวเอง เช่น เมื่อลูกรู้สึกโกรธ ให้เดินออกมาจากตรงนั้น หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ หรือเบนความสนใจไปทำอย่างอื่น และถ้าลูกทำได้ คุณพ่อคุณแม่ควรชื่นชมที่ลูกสามารถเอาชนะความโกรธของตัวเองได้
4. ไม่ใช้วิธีทำโทษลูกด้วยความรุนแรง
การลงโทษลูกด้วยความรุนแรง ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ย่อมมีผลต่อพฤติกรรมและการแสดงออกของลูก เช่น ถ้าคุณแม่ตีลูกทุกครั้งที่ลูกไม่เชื่อฟัง ลูกก็จะนำการตีไปใช้กับคนอื่นต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST