7 อาหารอันตรายที่เสี่ยงติดคอลูก

คุณพ่อคุณแม่รู้ดีว่า สิ่งใกล้ตัวที่ดูเหมือนจะไม่มีอันตราย ก็สามารถเป็นอันตรายกับเจ้าตัวเล็กของเราได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อลูกอยู่ในวัย 1-3 ขวบ หนึ่งในภัยใกล้ตัวเด็กวัยหัดกินและหัดหยิบของเข้าปาก ก็หนีไม่พ้นการมีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปอุดตันทางเดินหายใจ และสิ่งแปลกปลอมที่มีเล็ดลอดเข้าปากเด็กๆ ก็คืออาหารที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมให้ลูกกินในชีวิตประจำวันนี่เอง

เราลองรวบรวม 7 อาหารธรรมดาที่หากปล่อยให้ลูกกินโดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจเป็นอันตรายที่ไม่ธรรมดากับลูกของเราได้

1. องุ่น

Dangerousfood_web_1

องุ่นเป็นผลไม้ที่มีขนาดผลเล็กและพื้นผิวลื่น ถ้าลูกอมเข้าปากอาจจะสามารถไหลลงหลอดลมได้ง่าย ในเด็กเล็กคุณพ่อคุณแม่ควรหั่นองุ่นออกเป็นสองส่วนหรือเศษหนึ่งส่วนสี่ตามความยาวของผลองุ่น  และเอาเมล็ดองุ่นด้านในออก และไม่ให้ลูกรับประทานองุ่นขณะอยู่บนรถ หรือระหว่างเล่นกระโดดโลดเต้น

นอกจากองุ่นแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรระวังผลไม้อีกหลายประเภทที่มีขนาดเล็ก และพื้นผิวลื่นคล้ายองุ่น เพราะเมื่อลูกเอาเข้าปากก็ย่อมมีโอกาสที่จะไหลลงไปติดหลอดลมได้เช่นกัน

2. ไส้กรอก

Dangerousfood_web_2

มีเด็กไม่น้อยเคยมีประสบการณ์ไส้กรอกติดคอ จนหายใจไม่ออก โดยเฉพาะไส้กรอกที่มีก่อนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เพราะเด็กสามารถเอาเข้าปากและกลืนลงคอโดยไม่ได้ตั้งใจ

ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกกินไส้กรอก ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือสอนให้ลูกกัดไส้กรอกเป็นคำเล็กและเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนทุกครั้ง

3. ลูกอม

Dangerousfood_web_3

ลูกอมรสชาติหอมหวานอร่อยเป็นที่โปรดปรานของเด็กๆ แต่เวลาเอาลูกอมเข้าปาก ได้สัมผัสกับน้ำลาย อาจทำให้ลูกอมลื่นลงช่องทางเดินหายใจ และไปอุดท่อหลอดลม ทำให้เด็กหายใจไม่ออก

พ่อแม่ควรสอนให้เด็กไม่พูดคุยกับคนอื่นระหว่างอมลูกอม รอให้ลูกอมเหลือขนาดเล็กที่สุดหรืออมจนลูกอมละลายหายไปในปากก่อน แล้วค่อยพูด

4. ป็อบคอร์น

Dangerousfood_web_4

เมล็ดข้าวโพดที่คั่วหรืออบแล้วไม่แตกออก จะกลายเป็นข้าวโพดเมล็ดแข็ง เคี้ยวให้แตกละเอียดได้ยาก แต่สามารถหลุดลงคอและทำให้เกิดอาการสำลักได้

สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy Pediatrics) จึงมีข้อแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่าอายุ 4 ปี กินป็อปคอร์น

5. มาร์ชเมลโล

Dangerousfood_web_5

มาร์ชเมลโลเหนียวนุ่ม แต่เคี้ยวยาก อาจทำให้เด็กเผลอกลืนลงคอไป แต่มาร์ชเมลโลก็สามารถลงไปอุดหลอดลมและทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้

6. หมากฝรั่ง

Dangerousfood_web_6

เด็กๆ มักเผลอลืมคายหมากฝรั่งทิ้งหลังจากที่เคี้ยวจนหมดความหวานแล้ว และการกลืนหมากฝรั่งก็เป็นไปได้ที่หมากฝรั่งจะไม่ไหลลงไปตามทางเดินอาหาร แต่คิดค้างอยู่ที่คอและหลอดลมของเด็ก

มีผู้เชี่ยวชาญเคยชี้แจงว่าการกลืนหมากฝรั่งลงกระเพาะไม่เป็นอันตราย แต่อย่างไรก็ดี หากปล่อยให้เด็กกลืนหมากฝรั่งเข้าไปบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ได้

7. แอปเปิ้ล

Dangerousfood_web_7

แม้จะหั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว แต่ก็ยังมีเด็กโชคร้ายที่ต้องเจ็บป่วยสมองพิการ เดิน พูด และกลืนอาหารตามปกติไม่ได้ เพราะโดนแอปเปิ้ลชิ้นเล็กๆ เข้าไปติดในหลอดลมมาแล้ว

เด็กวัย 1-3 ขวบ ยังไม่มีฟันกรามซี่แรกและฟันกรามซี่ที่สอง ซึ่งเป็นฟันกรามที่จำเป็นต่อการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารให้ละเอียดได้มากพอ ดังนั้นหากจะให้ลูกกินผลไม้เนื้อแข็งคุณพ่อคุณแม่ควรปอกเปลือก ทำให้นิ่ม หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ในทางกลับกัน คุณพ่อคุณแม่สามารถหั่นผลไม้เป็นชิ้นใหญ่ให้ใหญ่มากพอที่เด็กจะไม่สามารถกลืนลงคอไปทั้งที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดได้

 

 

อ้างอิง
Siamrath
Line Today
The Sun
theAsianparentthailand
Parents
Rakluke
Breastfeedingthai
Scienceillustratedthailand
Healthandtrend
Pobpad
Thematter
Familyeducation
Unitypoint
Drjuliewei

Pitchaya T.

ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ที่ช่วยยืนยันว่ามนุษย์คนนี้คือเด็ก :)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST