READING

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 ...

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 อย่างไรกันบ้าง (ญี่ปุ่น)

วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณพ่อคุณแม่แทบจะทั่วโลก ต่างต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน คือ ลูกออกไปโรงเรียนไม่ได้ ตัวเองก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะทำให้พ่อแม่ทั่วโลกมีความรู้สึกร่วมกันคือ เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องหวั่นใจ เรื่องลูกก็ต้องรับมือ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม

M.O.M จึงไปลองถามไถ่คุณแม่ชาวไทยในประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หนักหน่วงแค่ไหน รับมือไหวหรือเปล่า และได้รับความช่วยเหลือดูแลจากประเทศนั้นๆ อย่างไร เด็กๆ ได้รับผลกระทบแค่ไหน และที่สำคัญก็คือ คุณแม่ยังไหวไหม บอกมา…

และไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก M.O.M ก็ขอส่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา มีพลังมากมายในการดูแลเด็กๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกบ้านเลยค่ะ

ชิบะ, ญี่ปุ่น

แม่เปิ้ล
น้องอิสระ (9 ขวบ) น้องมิลินท์ (7 ขวบ)

Q: สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เพิ่งมีการประกาศภาวะฉุกเฉินใน 7 จังหวัด (โตเกียว ไซตามะ ชิบะ คานากะวะ โอซาก้า เฮียวโกะ ฟุกุโอกะ) เมื่อวันที่ 8 เมษานี้เองค่ะ  แต่การประกาศภาวะฉุกเฉินของญี่ปุ่นต่างจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากตามกฎหมายญี่ปุ่น รัฐบาลไม่มีอำนาจในการสั่งหรือบังคับประชาชนให้ทำหรือไม่ทำอะไรได้ ทำได้แค่ขอความร่วมมือให้ทุกคนอยู่บ้าน ขอความร่วมมือในการ work from home ขนส่งสาธารณะยังวิ่งปกติ คนยังไปทำงานได้ ร้านอาหารยังเปิดได้ (เจ้าของร้านพิจารณาเองว่าจะปิดหรือไม่) ห้างฯ และซูเปอร์มาร์เก็ตยังเปิดปกติ แต่เสาร์อาทิตย์ส่วนของห้างจะปิด และซูเปอร์มาร์เก็ตปิดเร็วขึ้นค่ะ

ส่วนโรงเรียนขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัดพิจารณากันเอง โดยเบื้องต้นโรงเรียนใน 7 จังหวัด ประกาศเลื่อนเปิดเทอมเป็นวันที่ 7 พฤษภาคมค่ะ (เริ่มปิดมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม)

อาหารยังหาซื้อได้ตามปกติ อาหารแห้ง กระดาษทิชชู่ หมดเร็วมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีข่าวว่าโรงเรียนจะปิด หรือจะมีประกาศอะไรออกมา แต่วันรุ่งขึ้นก็มีของมาเติมเหมือนเดิมค่ะ  

ที่ขาดแคลนจริงๆ คือหน้ากากอนามัย แอลกอฮอลล์ และ ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ หมดไปตั้งแต่กลางเดือนมกราคมค่ะ ตามร้านอาจจะมีของบ้าง ต้องออกไปต่อคิวรอซื้อแต่เช้าก่อนร้านเปิด

Q: รัฐช่วยเหลืออะไรบ้างไหม

รัฐบาลกำลังพิจารณาเงินช่วยเหลือ 300,000 เยนต่อครอบครัว แต่เฉพาะครอบครัวที่รายได้ลดลงตามเกณฑ์ แต่เกณฑ์คืออะไรยังไม่ทราบค่ะ

สำหรับผู้ปกครองที่ต้องหยุดงานมาดูแลลูกที่โรงเรียนปิด รัฐจะชดเชยการขาดรายได้ให้ แต่ไม่เกินวันละ 8,000 เยน

ส่วนพ่อแม่ที่ไม่สามารถหยุดงานได้จริงๆ ทางเนอร์เซอรีหรือโรงเรียนจะรับฝากเด็กเล็ก และเด็กระดับ ป.1-ป.6 ให้ เว้นแต่ถ้ามีอาการป่วยไข้ เด็กที่ไปโรงเรียนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แล้วเตรียมอาหารกลางวันไปเอง  (เงื่อนไขแล้วแต่โรงเรียนค่ะ)

Q: เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

โรงเรียนปิดมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ซึ่งปกติจะเหลือเวลาอีก 1 เดือนถึงจะจบเทอมสุดท้าย เนื้อหาที่ยังเรียนไม่จบยังไม่ทราบจะไปเรียนกันตอนไหน และในเบื้องต้นโรงเรียนประกาศเลื่อนเปิดเทอมไปเป็นวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งจะเลยเวลาของปีการศึกษาใหม่ไปอีก 1 เดือน เนื้อหาใหม่ก็จะเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ยังไม่มีแนวทางว่าโรงเรียนจะจัดการสอนเพิ่มตอนไหนอย่างไรค่ะ

ที่นี่ไม่มีการเรียนออนไลน์ค่ะ ก่อนปิดเรียน โรงเรียนให้การบ้านเผื่อมาทำช่วงที่โรงเรียนหยุด และมีเว็บไซต์โรงเรียนให้สามารถเข้าไปพรินต์แบบฝึกหัดต่างๆ มาทำได้ค่ะ

Q: เด็กๆ ที่บ้านมีความเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง

เด็กๆ ที่บ้าน คนโตค่อนข้างจะโตแล้ว (9 ขวบ) ดูข่าวจากทีวีและเข้าใจสถานการณ์ได้ดี รวมทั้งเวลาไปโรงเรียน เวลามีข่าวหรือมีเหตุการณ์อะไรคุณครูก็จะคอยบอก คอยสอนตลอดอยู่แล้ว พ่อแม่ก็จะอธิบายคุยกันเพิ่มเติมเวลาดูข่าว หรือเวลาที่เขามีคำถาม

ส่วนคนเล็ก (7 ขวบ) ส่วนมากเขาจะฟังจากพ่อแม่และครูอธิบาย ซึ่งครูญี่ปุ่นเก่งมากในการพูดอธิบายเรื่องยากๆ ให้เด็กเข้าใจง่าย พร้อมมีรูปภาพประกอบ สอนให้เด็กเข้าใจและทำตามได้จริงๆ

japan_7
japan_9

Q: ในช่วงที่อยู่บ้านกับลูกแบบนี้ ในแต่ละวัน คุณแม่กับเด็กๆ ทำอะไรกันบ้าง 

จริงๆถ้าไม่หยุดงานก็สามารถฝากลูกที่โรงเรียนได้ แต่สถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่จำเป็นคงไม่มีใครอยากให้ลูกไปอยู่รวมกันที่โรงเรียน ส่วนตัวปกติทำงานพาร์ต์ไทม์ แต่พอโรงเรียนปิดก็ต้องขอหยุดงานไปด้วยค่ะ


Nidnok

‘นิดนก’ เป็นคุณแม่ของน้อง ณนญ / เป็นนักเขียนสาวเชิงรุก เจ้าของผลงานหนังสือ 'POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย' และ 'TO BE CONTINUE- โปรดติดตามตอนแต่งไป'

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST